โชคลาภ

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมบางคนถึงชอบถามกรุ๊ปเลือดกันนักกันหนา? บางทีอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องการให้เลือดเท่านั้นนะ แต่เป็นเพราะพวกเขากำลังจะ “จับโป๊ะ” นิสัยของคุณอยู่ก็ได้! เอาล่ะ มาดูกันว่า “ศาสตร์แห่งกรุ๊ปเลือด” นี่มันคืออะไร และทำไมถึงฮิตติดลมบนจนกลายเป็นเรื่อง Talk of the Town ไปแล้ว กรุ๊ปเลือด คือ ดวงดาวบนร่างกายเรา? ถ้าใครเคยอินกับการดูดวงจากวันเกิด ราศี หรือสไตล์ MBTI มาแล้ว ลองมาอินกับการดูดวงจากกรุ๊ปเลือดกันบ้างดีกว่า! เพราะนี่อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้มากขึ้น แต่ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าทฤษฎีนี้ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ 100% นะจ๊ะ แต่ก็เป็นความเชื่อที่ฮิตมากในหลายประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลี และไทยเรานี่แหละ เปิดตำนานกรุ๊ปเลือด จากญี่ปุ่นสู่ทั่วโลก ย้อนกลับไปในปี 1927 นักวิจัยชาวญี่ปุ่นชื่อ Takeji Furukawa ได้เสนอทฤษฎีที่ว่ากรุ๊ปเลือดมีความสัมพันธ์กับบุคลิกภาพของคน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น จนกลายเป็นกระแสที่แพร่หลายไปทั่วเอเชีย ลองมาดูกันว่าแต่ละกรุ๊ปเลือดมีลักษณะเด่นอะไรกันบ้าง กรุ๊ป A เป๊ะปังทุกดีเทล! คนกรุ๊ป A นี่แหละที่เขาเรียกว่า “Perfectionist” ตัวจริง! พวกเขามักจะเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย และชอบวางแผนทุกอย่างล่วงหน้า […]

ใครเป็นสายมูบ้างยกมือขึ้น! เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ทำแบบนี้แล้วจะซวย” หรือ “อย่าทำแบบนั้นเดี๋ยวดวงตก” กันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่รู้หรือเปล่าว่ามีหลายอย่างที่เราอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลให้ดวงชะตาของเราแย่ลงได้! วันนี้เราเลยจะมาเปิดเผยความลับกัน ว่ามีอะไรบ้างที่สายมูห้ามทำเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้ชีวิตพังยับเยิน! แต่ก่อนอื่น ขอบอกเลยว่าบทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครกลัวหรือวิตกจริตเกินเหตุนะ เพียงแต่อยากให้ทุกคนระมัดระวังและใส่ใจกับสิ่งรอบตัวมากขึ้น เพราะบางทีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตเราได้โดยไม่รู้ตัว ยังไงก็อ่านกันไปพร้อม ๆ กับการใช้วิจารณญาณด้วยนะ เอาล่ะ! มาดูกันเลยว่า 7 สิ่งต้องห้ามสำหรับสายมูมีอะไรบ้าง! อย่าเสียมารยาท! รักษามารยาทไว้ให้ดีถ้าไม่อยากโดนกรรมตามสนอง เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ใช่ไหม? นั่นแหละ! มันคือกฎแห่งกรรมที่ใครหลายคนมักมองข้าม บางคนอาจคิดว่าแค่เสียมารยาทนิดหน่อยคงไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้วมันอาจส่งผลร้ายแรงต่อดวงชะตาของเราได้นะ ลองนึกภาพดูสิ วันนี้คุณรีบมาก แต่ดันเจอรถติดหนัก เลยขับรถแซงซ้ายแซงขวา บีบแตรไล่คันอื่นแบบไม่สนใจใคร แถมยังด่าทอคนอื่นไปด้วย เอาล่ะสิ! นี่แหละที่เรียกว่าเสียมารยาท และมันอาจทำให้คุณเจอเรื่องแย่ ๆ ตามมาได้ เช่น อาจโดนใครสักคนถ่ายคลิปไว้แล้วโพสต์ลงโซเชียล จนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต หรือแย่กว่านั้นคือ อาจเกิดอุบัติเหตุเพราะความประมาท นอกจากนี้

อยากเสริมดวงด้วยการปลูกต้นไม้กันไหม? วันนี้เรามี 5 ต้นไม้มงคลสุดเด็ดมาแนะนำ รับรองว่าปลูกแล้วชีวิตจะรุ่งเรือง โชคลาภเข้ามาไม่ขาดสาย! มาดูกันเลยว่ามีต้นอะไรบ้างที่น่าปลูก ต้นไทร: ต้นไม้แห่งความร่มเย็นและมั่งคั่ง เริ่มกันที่ต้นไทรกันเลย! รู้ไหมว่าทำไมต้นไทรถึงเป็นไม้มงคล? ก็เพราะว่าชื่อคล้ายคำว่า “ไทย” แปลว่าเป็นใหญ่ เป็นเจ้านาย แถมยังให้ร่มเงาดี เปรียบเสมือนผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องคุ้มครอง และมีรากอากาศห้อยลงมา เหมือนเงินทองที่ห้อยลงมาให้เก็บ ใครอยากร่ำรวย มีอำนาจวาสนา ต้องปลูกต้นนี้เลย! และถ้าอยากให้เสริมดวงการเงินมากๆ ลองปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านดูสิ รับรองว่าเงินทองจะไหลมาเทมาแน่นอน! วิธีปลูกและดูแล: ต้นโพธิ์: ต้นไม้แห่งปัญญาและความสำเร็จ ต้นโพธิ์นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ! เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใต้ต้น มีใบรูปหัวใจที่สื่อถึงความเมตตา และแผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ เหมือนความสำเร็จที่แผ่ขยาย ใครอยากฉลาด มีปัญญา และประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องปลูกต้นโพธิ์เลย! แถมถ้าอยากเสริมด้านการศึกษาหรือการงาน ลองปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านสิ รับรองว่าสมองจะแล่นปรื๋อ ไอเดียเจ๋งๆ จะผุดขึ้นมาไม่หยุด! วิธีปลูกและดูแล: ต้นมะยม: ต้นไม้แห่งความนิยมชมชอบ ใครอยากเป็นที่รักที่ชอบของคนรอบข้าง ต้องปลูกต้นนี้เลย! ชื่อของมันคล้องจองกับคำว่า “นิยม” แถมยังออกผลดกเยอะ เปรียบเสมือนมีคนชื่นชอบมากมาย และรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมือนชีวิตที่มีรสชาติหลากหลาย ปลูกต้นนี้ไว้รับรองว่าจะมีแต่คนรักคนหลง! และถ้าอยากให้เสน่ห์แรงกว่าเดิม

อยากได้เลขเด็ดกันไหม? วันนี้เรามีเคล็ดลับเด็ดๆ มาฝาก กับวิธีสังเกตลางบอกเหตุในชีวิตประจำวัน เพื่อตีเป็นเลขเด็ด รับรองว่าทำตามแล้ว โอกาสถูกหวยจะเพิ่มขึ้นแน่นอน! มาดูกันเลยว่ามีลางบอกเหตุอะไรบ้างที่เราควรสังเกต เลขทะเบียนรถ: ลางเด่นชัดที่สุด! เคยสังเกตไหมว่า บางครั้งเราเจอเลขทะเบียนรถแปลกๆ บ่อยๆ ในวันเดียวกัน? นั่นแหละ! อาจเป็นลางบอกเหตุแล้วล่ะ วิธีสังเกต: เคล็ดลับเด็ด: ลองสังเกตว่าวันไหนที่คุณเจอเลขทะเบียนแปลกๆ บ่อยที่สุด แล้วจดบันทึกไว้ อาจเป็นวันดวงดีของคุณก็ได้! เลขบ้าน เลขห้อง: ลางใกล้ตัวที่มองข้ามไม่ได้ บ้านคือวิมานของเรา แล้วรู้ไหมว่าเลขบ้านหรือเลขห้องของเราก็อาจเป็นลางบอกเหตุได้เหมือนกัน! วิธีสังเกต: เคล็ดลับเด็ด: ลองเอาเลขบ้านของคุณมาบวกกับเลขบ้านข้างๆ ดูสิ! อาจได้เลขเด็ดที่ไม่คาดคิดก็ได้ เวลาซ้ำ: ลางที่มาเตือนตามนาฬิกา เคยตื่นมากลางดึกแล้วเห็นนาฬิกาเป็นเวลาซ้ำๆ ไหม? หรือบังเอิญมองนาฬิกาบ่อยๆ แล้วเจอเวลาเดิมซ้ำๆ? นั่นอาจเป็นลางบอกเหตุแล้วล่ะ! วิธีสังเกต: เคล็ดลับเด็ด: ลองตั้งนาฬิกาปลุกเป็นเวลาที่เป็นเลขมงคลสำหรับคุณดูสิ อาจช่วยเพิ่มโอกาสเจอลางดีๆ ได้ เลขโทรศัพท์: ลางที่อยู่ในมือถือ ในยุคที่เราใช้โทรศัพท์มือถือกันตลอดเวลา เลขโทรศัพท์ก็อาจเป็นลางบอกเหตุได้เหมือนกัน! วิธีสังเกต: เคล็ดลับเด็ด: ลองเช็คประวัติการโทรในวันที่คุณรู้สึกว่าเป็นวันดวงดี อาจพบเลขเด็ดซ่อนอยู่ก็ได้! ราคาสินค้า: ลางจากการช้อปปิ้ง ใครจะคิดล่ะว่า

อยากรวยไหม? อยากมีเงินทองไหลมาเทมาไหม? วันนี้เรามี 5 พิธีกรรมเด็ดๆ ที่คนรวยเขาทำกัน มาเผยให้ฟังกันแบบจัดเต็ม! รับรองว่าทำตามแล้ว โชคลาภจะไหลมาเทมา เงินทองจะไหลมาปรี่เข้ากระเป๋าแน่นอน มาดูกันเลยว่ามีพิธีอะไรบ้าง! พิธีบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่ง เริ่มกันที่พิธีแรกเลย! รู้จักพระแม่ลักษมีกันไหม? เทพีองค์นี้ถือว่าเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยในศาสนาฮินดูเลยนะ คนรวยหลายคนเขานิยมบูชาพระแม่ลักษมีกัน แล้วจะทำยังไงล่ะ? มาดูกัน! วิธีทำ: ทำแบบนี้สม่ำเสมอ รับรองว่าพระแม่ลักษมีจะเมตตา ส่งโชคลาภมาให้แน่นอน! แต่อย่าลืมนะ การบูชาต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ อย่าคิดแต่จะเอาอย่างเดียว ต้องรู้จักให้ด้วย เช่น ทำบุญ ช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง พระแม่ลักษมีจะยิ่งเมตตามากขึ้นไปอีก! พิธีฝังตะกรุดมหาลาภ โอ้โห! พิธีนี้เด็ดจริงๆ เลยนะ ตะกรุดมหาลาภนี่ถือว่าเป็นของขลังที่คนรวยหลายคนนิยมใช้กัน แต่จะทำยังไงล่ะ? มาดูกัน! วิธีทำ: เชื่อกันว่า การฝังตะกรุดมหาลาภแบบนี้จะช่วยดึงดูดความมั่งคั่งและโชคลาภเข้าบ้าน แต่มีข้อควรระวังนะ! ห้ามเอาตะกรุดขึ้นมาดูเด็ดขาด เพราะจะทำให้ความขลังหมดไป แล้วก็อย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกตะกรุดด้วยล่ะ พิธีสะเดาะเคราะห์เรียกทรัพย์ โอ้โห! พิธีนี้นี่เรียกว่าเด็ดสุดๆ เลยนะ คนรวยหลายคนชอบทำพิธีนี้กันทุกปีเลยล่ะ แล้วจะทำยังไง? ตามมาดู! วิธีทำ: พิธีนี้เชื่อกันว่าจะช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย เคราะห์กรรมต่างๆ

วันนี้เรามาเปิดตำนานกันแบบจัดเต็มกับผ้ายันต์ 5 แบบที่ฮอตฮิตสุดๆ ในวงการคนรักความขลัง ใครที่กำลังมองหาของดีมีฤทธิ์ไว้ติดตัว หรือแค่อยากรู้ว่าทำไมผ้ายันต์ถึงเป็นที่นิยมขนาดนี้ บทความนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง ความเป็นมาของผ้ายันต์ ก่อนจะไปดูแต่ละแบบ มาทำความรู้จักกับผ้ายันต์กันก่อนดีกว่า ผ้ายันต์เป็นวัตถุมงคลที่มีประวัติยาวนานในวัฒนธรรมไทย โดยมีต้นกำเนิดมาจากความเชื่อทางพุทธศาสนาผสมผสานกับไสยศาสตร์ ผ้ายันต์จะมีการลงอักขระ คาถา และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เชื่อว่ามีพลังอำนาจในการปกป้องคุ้มครองผู้ครอบครอง ในอดีต ผ้ายันต์มักถูกใช้โดยทหารเพื่อป้องกันอันตรายในสนามรบ แต่ในปัจจุบัน ผ้ายันต์ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น โดยผู้คนเชื่อว่าสามารถช่วยในเรื่องต่างๆ เช่น แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ และการเสริมดวง ผ้ายันต์ยุทธนาคราช เริ่มกันที่ผ้ายันต์สุดปังอย่าง “ยุทธนาคราช” เลยดีกว่า ผ้ายันต์นี้มีตำนานเล่าขานว่าสร้างขึ้นโดยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย ลักษณะเด่นของผ้ายันต์ยุทธนาคราชคือ มีภาพพญานาคอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอักขระคาถาและยันต์ต่างๆ เชื่อกันว่ามีอานุภาพในการป้องกันภัยอันตราย ช่วยเสริมดวงชะตา และเพิ่มพลังอำนาจให้แก่ผู้ครอบครอง คนที่นิยมใช้ผ้ายันต์นี้มักเป็นทหาร ตำรวจ หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจที่ต้องการความคุ้มครองและความสำเร็จในการงาน วิธีการบูชาผ้ายันต์ยุทธนาคราชนั้นไม่ยุ่งยาก แค่พกติดตัวหรือเก็บไว้ในที่เคารพ หมั่นสวดมนต์และระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงพ่อคูณอยู่เสมอ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มพลังความศักดิ์สิทธิ์ให้กับผ้ายันต์ได้ ผ้ายันต์หนุมาน ต่อกันด้วยผ้ายันต์สุดเท่อย่าง “หนุมาน”

รู้ไหมว่าการวางศาลพระภูมิไม่ใช่แค่เอาไปตั้งตรงไหนก็ได้นะ มันมีเคล็ดลับเยอะแยะเลยที่จะช่วยเสริมดวงบ้านให้ปังสุด ๆ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง! ความสำคัญของศาลพระภูมิ ก่อนจะไปดูวิธีวางศาลพระภูมิ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมศาลพระภูมิถึงสำคัญนักหนา ศาลพระภูมิเป็นที่สถิตของเทพารักษ์หรือเจ้าที่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้ปกปักรักษาบ้านและที่ดิน การมีศาลพระภูมิที่ถูกต้องจะช่วยให้บ้านมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข ปลอดภัย และเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าวางผิดที่ผิดทางล่ะก็ ระวังจะกลายเป็นการเรียกสิ่งไม่ดีเข้าบ้านแทนนะ! การเลือกตำแหน่งวางศาลพระภูมิ เรื่องแรกเลยที่ต้องรู้คือการเลือกตำแหน่งวางศาลพระภูมิ โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งที่นิยมวางศาลพระภูมิคือมุมขวาด้านหน้าของบ้านเมื่อหันหน้าออกจากตัวบ้าน เพราะเชื่อว่าเป็นตำแหน่งมงคลที่จะช่วยปกป้องบ้านได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป๊ะตามนี้เสมอไปนะ บางบ้านอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกตำแหน่งคือ ต้องไม่วางให้ตรงกับประตูหรือหน้าต่างบ้าน ไม่วางใต้ชายคาหรือต้นไม้ใหญ่ และไม่วางในที่ที่คนเดินผ่านไปมาบ่อย ๆ นอกจากนี้ ควรวางให้หันหน้าออกจากตัวบ้าน เพื่อให้เทพารักษ์ช่วยปกป้องบ้านจากสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามา ทิศทางการวางศาลพระภูมิ เมื่อเลือกตำแหน่งได้แล้ว ต่อมาก็ต้องดูเรื่องทิศทางการวางศาลพระภูมิ ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยทั่วไปแล้ว นิยมวางให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพราะเชื่อว่าเป็นทิศแห่งความเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าไม่สะดวก ก็สามารถเลือกทิศอื่นได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ แต่ไม่ว่าจะเลือกหันไปทางทิศไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไม่หันหลังให้ตัวบ้านเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดความอัปมงคลได้ ขนาดของศาลพระภูมิ เรื่องขนาดของศาลพระภูมิก็สำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจคิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เสมอไปนะ ขนาดของศาลพระภูมิควรเหมาะสมกับขนาดของบ้านและที่ดิน ไม่ควรใหญ่โตเกินไปจนดูไม่สมดุล หรือเล็กเกินไปจนดูไม่น่าเกรงขาม โดยทั่วไป ความสูงของศาลพระภูมิควรอยู่ระหว่าง 1-1.5

ก่อนจะไปดูแต่ละราศี มาดูภาพรวมของปี 2025 กันก่อนดีกว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยทีเดียว ดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวแห่งโชคลาภจะย้ายเข้าสู่ราศีกันย์ ส่งผลให้คนที่ทำงานหนักมาตลอดจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในขณะเดียวกัน ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวแห่งความรับผิดชอบจะย้ายเข้าสู่ราศีมีน ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต แต่ไม่ต้องกลัวไป เพราะมันจะเป็นโอกาสให้เราได้พิสูจน์ตัวเองด้วย! ราศีเมษ (13 เมษายน – 13 พฤษภาคม) ปีนี้ชาวราศีเมษจะมาแรงแซงทุกราศีเลยล่ะ! ดาวอังคารซึ่งเป็นดาวประจำราศีของคุณจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก ส่งผลให้คุณมีพลังเต็มเปี่ยม กล้าคิดกล้าทำ อยากทำอะไรก็ทำได้เลย แต่ระวังความใจร้อนนิดนึงนะ เพราะอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ ในเรื่องความรัก คนโสดมีโอกาสเจอคู่แท้สูงมาก ส่วนคนมีคู่จะรักกันหวานชื่นยิ่งขึ้น ด้านการเงิน โอกาสทองกำลังจะมา เตรียมตัวรวยได้เลย! ราศีพฤษภ (14 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน) ชาวราศีพฤษภต้องระวังหน่อยนะปีนี้ เพราะดาวเสาร์จะส่งผลให้คุณเจอกับความท้าทายในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องการงาน อาจมีอุปสรรคหรือความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่ต้องกลัว! ถือว่าเป็นโอกาสให้คุณได้พิสูจน์ความสามารถ ถ้าผ่านไปได้ รับรองว่าจะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ด้านความรัก อาจมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าใจเย็นๆ ก็จะผ่านไปได้ ส่วนเรื่องเงิน ต้องระวังการใช้จ่ายนิดนึง อย่าช็อปมากเกินไปล่ะ!

รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงตก เซ็งๆ ไม่ค่อยมีอะไรเข้าทางเลยใช่ไหม? ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เรามี 7 วิธีล้างดวงเสริมมงคลมาฝากกัน รับรองว่าทำง่าย ได้ผลไว แถมไม่ต้องเสียตังค์เยอะด้วย มาดูกันเลยว่ามีวิธีอะไรบ้าง! อาบน้ำมนต์ ล้างซวยชะโชค วิธีแรกที่ง่ายสุดๆ ก็คือการอาบน้ำมนต์นี่แหละ เชื่อกันว่าน้ำมนต์มีพลังในการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัวเรา วิธีทำก็ไม่ยาก แค่หาน้ำมนต์จากวัดที่คุณศรัทธา หรือจะทำเองที่บ้านก็ได้ โดยนำน้ำสะอาดมาสวดมนต์บทชินบัญชรหรือพาหุง 9 จบ แล้วค่อยนำไปอาบ ขั้นตอนการอาบก็ง่ายๆ แค่ตักน้ำมนต์ราดลงบนศีรษะ พร้อมอธิษฐานขอให้สิ่งไม่ดีหลุดออกไปจากชีวิต ทำแบบนี้ติดต่อกัน 3-7 วัน รับรองว่าจะรู้สึกสดชื่น โล่งตัว เหมือนได้ชำระล้างพลังงานเก่าๆ ออกไปเลยล่ะ สะเดาะเคราะห์ด้วยไข่ไก่ วิธีนี้อาจจะฟังดูแปลกๆ หน่อย แต่เชื่อเถอะว่าได้ผลจริง! เราจะใช้ไข่ไก่เป็นตัวดูดซับพลังงานไม่ดีออกจากตัวเรา วิธีทำก็ง่ายมาก แค่เตรียมไข่ไก่สดๆ มา 1 ฟอง จากนั้นนำมาลูบตามร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พร้อมอธิษฐานให้ไข่ดูดซับสิ่งไม่ดีออกไป เมื่อลูบครบทั่วร่างแล้ว ให้นำไข่ไปตอกใส่แก้วน้ำ สังเกตลักษณะของไข่ขาวและไข่แดง ถ้าเห็นเป็นเส้นสายแปลกๆ หรือมีฟองอากาศเยอะ แสดงว่ามีเคราะห์กรรมติดตัวอยู่เยอะ ให้ทำซ้ำอีก 2-3 ครั้งในวันถัดไป จนกว่าไข่จะใสสะอาด

วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องการนอนกันบ้างดีกว่า รู้ไหมว่าทิศทางที่เรานอนนั้นสำคัญมากๆ ตามหลักฮวงจุ้ยโบราณ เพราะมันไม่ได้แค่ส่งผลต่อการพักผ่อนของเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อโชคชะตาและพลังงานในชีวิตด้วยนะ! มาดูกันเลยว่าเราควรนอนยังไงให้ปังตามหลักฮวงจุ้ย ทำความรู้จักกับฮวงจุ้ยก่อน ก่อนจะไปดูเรื่องทิศทางการนอน เรามาทำความรู้จักกับฮวงจุ้ยกันก่อนดีกว่า ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์โบราณของจีนที่ว่าด้วยการจัดสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับพลังงานธรรมชาติ เพื่อให้ชีวิตเฮงๆ รุ่งๆ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ซึ่งหลักการนี้ก็นำมาใช้กับการจัดห้องนอนและทิศทางการนอนด้วยนั่นเอง ทำไมทิศทางการนอนถึงสำคัญ? คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมทิศทางการนอนถึงสำคัญนักหนา ก็เพราะว่าตามหลักฮวงจุ้ย เชื่อว่าขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายและจิตใจของเราจะเปิดรับพลังงานจากธรรมชาติมากที่สุด ถ้าเรานอนถูกทิศ ก็จะได้รับพลังงานดีๆ ทำให้ตื่นมาสดชื่น มีพลัง พร้อมรับวันใหม่ แถมยังช่วยเสริมดวงชะตาอีกต่างหาก แต่ถ้านอนผิดทิศล่ะก็ ระวังจะตื่นมาหงุดหงิด อารมณ์เสีย งานการไม่ราบรื่นเอานะ หลักการเลือกทิศทางนอนตามฮวงจุ้ย ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว การเลือกทิศทางนอนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “ธาตุประจำตัว” ของเรา ซึ่งคำนวณได้จากปีเกิดตามปฏิทินจันทรคติจีน โดยแบ่งออกเป็น 5 ธาตุ ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน ทอง และน้ำ แต่ละธาตุก็จะมีทิศที่เหมาะสมแตกต่างกันไป แต่นี่เป็นแค่หลักการกว้างๆ นะ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเพียบ เดี๋ยวเราจะไปดูกันทีละทิศเลย ทิศเหนือ ทิศแห่งความก้าวหน้า ทิศเหนือเป็นทิศที่เหมาะกับคนธาตุน้ำ การนอนหันหัวไปทางทิศเหนือจะช่วยเสริมในเรื่องของหน้าที่การงาน