ช่วงนี้เห็นคนพูดถึงกฎแห่งแรงดึงดูดกันเยอะมาก หลายคนบอกว่าลองทำตามแล้วชีวิตดีขึ้น บางคนสมหวังในความรัก บางคนได้งานดีๆ แต่หลายคนก็ยังงงว่ามันทำงานยังไง แล้วจะใช้ให้ได้ผลต้องทำอะไรบ้าง
กฎแห่งแรงดึงดูดคืออะไร
กฎแห่งแรงดึงดูดเป็นหลักการที่ว่าพลังงานที่คล้ายกันจะดึงดูดกัน ความคิด ความรู้สึก การกระทำของเราจะดึงดูดประสบการณ์แบบเดียวกันเข้ามาในชีวิต หลักการนี้ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์รองรับเรื่องพลังงานและการสั่นสะเทือนของอะตอม
หลักการทำงานของกฎแรงดึงดูด
การทำงานของกฎแรงดึงดูดมีหลักการง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง ทุกความคิด ความรู้สึก และการกระทำของเราส่งคลื่นพลังงานออกไปในจักรวาล พลังงานนี้จะดึงดูดสถานการณ์ที่มีความถี่แบบเดียวกันกลับมา
ขั้นตอนการใช้กฎแรงดึงดูด
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
- ต้องระบุความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง
- เขียนรายละเอียดให้ครบถ้วน
- กำหนดเวลาที่อยากให้สำเร็จ
สร้างภาพในใจ
แทนที่จะแค่คิดถึงเป้าหมาย ให้จินตนาการว่าได้รับสิ่งนั้นแล้ว รู้สึกอย่างไร มีความสุขแค่ไหน ยิ่งรู้สึกได้จริงมากเท่าไหร่ ยิ่งดึงดูดได้เร็วเท่านั้น
เชื่อมั่นและปล่อยวาง
หลังจากตั้งเป้าหมายและสร้างภาพในใจแล้ว ต้องเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ต้องการจะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่กังวล ไม่จมอยู่กับความกลัว
การใช้กฎแรงดึงดูดในแต่ละด้าน
ด้านความรัก
ไม่จำเป็นต้องระบุคนที่ต้องการ แต่ให้เขียนคุณสมบัติที่อยากได้ พฤติกรรมที่ชอบ และความรู้สึกที่อยากมีเมื่ออยู่ด้วยกัน
ด้านการเงิน
นอกจากระบุจำนวนเงิน ให้นึกถึงความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และอิสระทางการเงิน จินตนาการว่าใช้เงินอย่างสบายใจ
ด้านการงาน
คิดถึงลักษณะงานที่ชอบ บรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และความก้าวหน้า
เครื่องมือเสริมแรงดึงดูด
Vision Board
รวบรวมรูปภาพ ข้อความ หรือสัญลักษณ์ที่แทนเป้าหมาย จัดวางบนกระดานให้สวยงาม วางไว้ในที่มองเห็นบ่อยๆ
สมุดบันทึกความสำเร็จ
เขียนเป้าหมายและความสำเร็จประจำวัน รวมถึงความรู้สึกขอบคุณต่อสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น
อุปสรรคที่มักเจอ
ความไม่เชื่อมั่น
หลายคนไม่เชื่อว่ากฎแรงดึงดูดจะทำงานได้จริง ทำให้ส่งพลังงานลบออกไปโดยไม่รู้ตัว
ความใจร้อน
อยากเห็นผลเร็วเกินไป ทำให้เกิดความกังวลและความกลัว ซึ่งเป็นพลังงานที่ขัดขวางการดึงดูด
วิธีเอาชนะอุปสรรคในการใช้กฎแรงดึงดูด
การจัดการความคิดลบ
เมื่อความคิดลบแทรกเข้ามา ให้รับรู้แต่ไม่จมอยู่กับมัน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเป็นความคิดบวก การฝึกสังเกตความคิดตัวเองจะช่วยให้จัดการกับความคิดลบได้ดีขึ้น
การสร้างความเชื่อมั่น
ฝึกมองหาสิ่งดีๆ เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน จดบันทึกความสำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย การสะสมประสบการณ์ดีๆ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น
การรับมือกับความกังวล
ฝึกการหายใจลึกๆ ทำสมาธิ หรือออกกำลังกาย กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความกังวลและทำให้จิตใจสงบ
เทคนิคเสริมพลังดึงดูด
การทำสมาธิแบบมีจุดหมาย
- นั่งในท่าสบาย หลับตา
- หายใจลึกๆ ผ่อนคลาย
- นึกถึงเป้าหมายที่ต้องการ
- รู้สึกถึงความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น
การใช้คำยืนยันบวก
พูดประโยคบวกกับตัวเองทุกวัน แต่ต้องเป็นประโยคที่รู้สึกว่าเป็นไปได้จริง และรู้สึกดีเมื่อพูด
การแสดงความขอบคุณ
ฝึกรู้สึกขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้ว การรู้สึกขอบคุณจะช่วยเพิ่มพลังการดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาอีก
การใช้กฎแรงดึงดูดในชีวิตประจำวัน
ตื่นเช้า
เริ่มต้นวันด้วยความคิดบวก ตั้งเจตนาดีสำหรับวันนี้ มองเห็นภาพวันที่สดใส
ระหว่างวัน
สังเกตความคิด ความรู้สึก ปรับให้เป็นบวกเมื่อจำเป็น จดจ่อกับสิ่งที่ต้องการ
ก่อนนอน
ทบทวนสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น รู้สึกขอบคุณ และผ่อนคลายกับภาพความสำเร็จในอนาคต
การวัดผลและติดตาม
บันทึกประจำวัน
- จดสิ่งที่คิดและรู้สึก
- บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- สังเกตการเปลี่ยนแปลง
ทบทวนเป้าหมาย
ปรับเปลี่ยนรายละเอียดตามความเหมาะสม แต่ยังคงแก่นของสิ่งที่ต้องการ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกฎแรงดึงดูด
เข้าใจผิดว่าไม่ต้องลงมือทำ
กฎแรงดึงดูดทำงานควบคู่กับการลงมือทำ การคิดบวกอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำด้วย
เข้าใจผิดว่าต้องคิดบวกตลอดเวลา
ความคิดลบเป็นเรื่องธรรมชาติ สำคัญคือการรู้เท่าทันและไม่ปล่อยให้ครอบงำ
เข้าใจผิดว่าต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ
บางครั้งสิ่งที่ไม่ได้อาจเป็นเพราะมีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่
ສະຫຼຸບ
กฎแรงดึงดูดเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างชีวิตที่ต้องการ แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธีและมีความเข้าใจที่ถูกต้อง การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและอดทนจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ที่สำคัญคือต้องเชื่อมั่นในพลังของตัวเองและกฎแห่งแรงดึงดูด พร้อมลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุป กฎแรงดึงดูดไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นหลักการที่มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา การนำมาใช้อย่างถูกต้องจะช่วยยกระดับชีวิตในทุกด้าน ทั้งความรัก การงาน การเงิน และความสุขในชีวิต