Powerball เกมลอตเตอรีที่คนอเมริกันหลงรัก

Powerball คือหนึ่งในเกมลอตเตอรีที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดการโดยสมาคมลอตเตอรีหลายรัฐ (MUSL) และมีการจับรางวัลถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ในวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ เวลาประมาณ 22:59 น. ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ

วิธีการเล่น Powerball ผู้เล่นต้องเลือกหมายเลขจากสองชุด ได้แก่

  • ชุดหมายเลขสีขาว: จำนวน 5 ตัวจากทั้งหมด 69 หมายเลข
  • ชุดหมายเลขสีแดง (Powerball): จำนวน 1 ตัวจากทั้งหมด 26 หมายเลข

การเลือกหมายเลขนี้ทำให้โอกาสชนะแจ็กพอตอยู่ที่ 1 ใน 292,201,338 ซึ่งแม้จะดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ แต่ผู้ชนะหลายคนพิสูจน์แล้วว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้

ราคาตั๋วเริ่มต้นที่ 2 ดอลลาร์ และผู้เล่นสามารถเพิ่มตัวเลือกเสริมได้ เช่น

  • Power Play: เพิ่มเงินรางวัลในระดับรอง
  • Double Play: เพิ่มการจับรางวัลอีกครั้ง โดยใช้หมายเลขเดิมในชุดการจับรางวัลที่สอง

เงินรางวัลและตัวเลือกการรับเงิน รางวัลแจ็กพอตของ Powerball เริ่มต้นที่ 20 ล้านดอลลาร์ และหากไม่มีผู้ถูกรางวัล แจ็กพอตจะสะสมไปเรื่อย ๆ (Rollover) ทำให้บางครั้งรางวัลพุ่งสูงถึงพันล้านดอลลาร์ ผู้ชนะสามารถเลือกรับเงินได้สองแบบ:

  • เงินก้อน (Lump Sum): รับเงินสดทันทีประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าแจ็กพอตที่โฆษณา
  • รายปี (Annuity): รับเงินรางวัลแบบผ่อนจ่าย 30 งวด โดยแต่ละงวดเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี เพื่อปรับตามเงินเฟ้อ

Power Play และ Double Play

  • Power Play: เป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มเงินรางวัลในระดับรอง (ไม่รวมแจ็กพอต) โดยสามารถคูณเงินรางวัลได้ตั้งแต่ 2x ถึง 10x หากแจ็กพอตต่ำกว่า 150 ล้านดอลลาร์
  • Double Play: เพิ่มโอกาสชนะด้วยการจับรางวัลที่สอง ผู้เล่นสามารถลุ้นรางวัลสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ในชุด Double Play โดยใช้หมายเลขเดียวกัน

ประวัติศาสตร์ของ Powerball Powerball เริ่มต้นในปี 1992 โดยพัฒนามาจากเกม “Lotto America” ที่เริ่มในปี 1988 แนวคิดการใช้สองกลองในการจับหมายเลขช่วยเพิ่มโอกาสชนะในรางวัลระดับรอง โดยยังคงความท้าทายของแจ็กพอต

ในปี 2015 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรูปแบบเกม:

  • จำนวนลูกบอลสีขาวเพิ่มจาก 59 เป็น 69 ลูก
  • จำนวนลูกบอล Powerball ลดจาก 35 เหลือ 26 ลูก

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โอกาสชนะรางวัลใดรางวัลหนึ่งดีขึ้นเป็น 1 ใน 24.87 แต่โอกาสชนะแจ็กพอตยากขึ้นเป็น 1 ใน 292,201,338

รางวัลแจ็กพอตที่น่าจดจำ

  • พฤศจิกายน 2022: แจ็กพอตมูลค่า 2.04 พันล้านดอลลาร์ ชนะโดยตั๋วในแคลิฟอร์เนีย
  • มกราคม 2016: แจ็กพอตมูลค่า 1.586 พันล้านดอลลาร์ แบ่งให้ผู้ชนะ 3 คน
  • กรกฎาคม 2023: แจ็กพอตมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ ชนะในลอสแอนเจลิส

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปี 2021 ในปี 2021 Powerball ได้เพิ่มการจับรางวัลวันจันทร์ นอกจากวันพุธและวันเสาร์ ทำให้มีการจับรางวัล 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และยังมีการเปิดตัว Double Play ใน 14 รัฐและเปอร์โตริโก ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้หมายเลขเดิมในรอบการจับรางวัลที่สองเพื่อเพิ่มโอกาสลุ้นรางวัลสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์

โครงสร้างเงินรางวัลและโอกาสชนะ รางวัลแบ่งออกเป็นหลายระดับดังนี้:

  • จับคู่ Powerball (0+1): รางวัล $4
  • จับคู่ 1 หมายเลข + Powerball (1+1): รางวัล $4
  • จับคู่ 2 หมายเลข + Powerball (2+1): รางวัล $7
  • จับคู่ 3 หมายเลข (3+0): รางวัล $7
  • จับคู่ 3 หมายเลข + Powerball (3+1): รางวัล $100
  • จับคู่ 4 หมายเลข (4+0): รางวัล $100
  • จับคู่ 4 หมายเลข + Powerball (4+1): รางวัล $50,000
  • จับคู่ 5 หมายเลข (5+0): รางวัล $1,000,000
  • จับคู่ 5 หมายเลข + Powerball (5+1): แจ็กพอต

ระบบการสะสมรางวัลแจ็กพอต หากไม่มีผู้ชนะในงวดนั้น รางวัลแจ็กพอตจะสะสมเพิ่มอย่างน้อย 10 ล้านดอลลาร์ในแต่ละงวดจนกว่าจะมีผู้ถูกรางวัล โดยรางวัลแจ็กพอตจะถูกแบ่งเท่า ๆ กันหากมีผู้ชนะหลายคนในงวดเดียวกัน

ข้อควรระวังสำหรับผู้เล่น

  • การซื้อตั๋วควรอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสม
  • เก็บตั๋วไว้อย่างปลอดภัยและตรวจสอบหมายเลขที่ชนะอย่างรอบคอบ
  • หากถูกรางวัล ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อการจัดการเงินรางวัลอย่างมีประสิทธิภาพ

Powerball ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมลอตเตอรี่ แต่ยังสะท้อนถึงความหวังและโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของคนธรรมดาให้กลายเป็นมหาเศรษฐีในพริบตา หากคุณคิดจะลองเสี่ยงโชค อย่าลืมว่าทุกการเล่นควรมาพร้อมความรับผิดชอบ

ເລື່ອນໄປເທິງ