ใครที่กำลังมองหาไอเท็มแต่งห้องสุดเก๋ ต้องไม่พลาด Dream Catcher! ของตกแต่งสุดฮิตที่กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่นยุคนี้ บอกเลยว่าไม่ได้มีดีแค่ความสวย แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งสำหรับຊາມູที่น่าสนใจมากๆ
Dream Catcher คืออะไร? ทำไมถึงฮิตในหมู่วัยรุ่น?
Dream Catcher หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า “ตาข่ายดักฝัน” เป็นเครื่องรางของชนพื้นเมืองอเมริกัน มีลักษณะเป็นห่วงกลมสานด้วยเชือกหรือด้าย มีลวดลายคล้ายใยแมงมุมอยู่ตรงกลาง และมักจะประดับด้วยขนนก ลูกปัด หรือหินสวยๆ
ที่มันฮิตในหมู่วัยรุ่นก็เพราะว่า นอกจากจะสวยแล้ว ยังมีความหมายที่เท่มากๆ ตามความเชื่อดั้งเดิม Dream Catcher จะช่วยกรองความฝัน โดยจะดักจับฝันร้ายเอาไว้ที่ใยตรงกลาง แล้วปล่อยให้ฝันดีๆ ไหลผ่านขนนกลงมาหาคนนอน
แถมยังเป็นไอเท็มที่เข้ากับหลายสไตล์การแต่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โบโฮ มินิมอล หรือแม้แต่สไตล์ญี่ปุ่น ก็ยังมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างลงตัว
ประวัติความเป็นมาของ Dream Catcher สุดเท่
Dream Catcher มีต้นกำเนิดมาจากชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันที่ชื่อว่า “โอจิบเว” (Ojibwe) ซึ่งอาศัยอยู่แถบทะเลสาบเกรตเลกส์ในอเมริกาเหนือ
ตามตำนานเล่าว่า มีผู้หญิงแก่คนหนึ่งที่ชื่อว่า “แม่แมงมุม” (Spider Woman) เธอมีหน้าที่ดูแลปกป้องผู้คนในเผ่า โดยเฉพาะเด็กๆ แต่พอเผ่าขยายใหญ่ขึ้น เธอก็ดูแลไม่ทั่วถึง
เธอเลยสอนให้ผู้หญิงในเผ่าทำ Dream Catcher เพื่อช่วยปกป้องลูกๆ ของพวกเขา โดยสอนให้สานใยเป็นวงกลมเหมือนใยแมงมุม แล้วแขวนไว้เหนือเปลเด็ก เพื่อกรองความฝันและดักจับสิ่งชั่วร้าย
เท่มากใช่ไหมล่ะ? นี่แหละที่มาของ Dream Catcher ที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ของแต่งบ้านธรรมดาๆ แต่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากๆ
ความหมายของส่วนประกอบต่างๆ ใน Dream Catcher
Dream Catcher แต่ละอันอาจจะดูคล้ายๆ กัน แต่จริงๆ แล้วแต่ละส่วนมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าแต่ละส่วนมีความหมายอะไรบ้าง
- วงกลม – สัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ หมายถึงวัฏจักรของชีวิต
- ใยตรงกลาง – เปรียบเสมือนใยแมงมุมที่ดักจับฝันร้าย
- รูตรงกลาง – ช่องทางให้ฝันดีๆ ไหลผ่านลงมา
- ขนนก – สัญลักษณ์ของอากาศและลมหายใจ ช่วยพาฝันดีมาสู่คนนอน
- ลูกปัด – มักจะมีหนึ่งเม็ดซ่อนอยู่ในใย เปรียบเสมือนแมงมุมที่คอยดักจับฝันร้าย
รู้อย่างนี้แล้ว ต่อไปเวลาเห็น Dream Catcher ก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ของแต่งบ้านธรรมดาๆ อีกต่อไป แต่เป็นงานศิลปะที่มีความหมายลึกซึ้งจริงๆ
วิธีเลือก Dream Catcher ให้เหมาะกับตัวเอง
การเลือก Dream Catcher ไม่ใช่แค่เลือกอันที่สวยที่สุด แต่ควรเลือกให้เหมาะกับตัวเองด้วย ลองดูเทคนิคการเลือกแบบง่ายๆ กัน
- สีสัน – แต่ละสีมีความหมายต่างกัน เช่น สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ สีฟ้าหมายถึงปัญญา สีแดงหมายถึงพลัง เลือกสีที่ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต
- ขนาด – ถ้าต้องการใช้ดักฝันจริงๆ ควรเลือกขนาดเล็กประมาณ 3-5 นิ้ว แต่ถ้าต้องการแต่งบ้าน ขนาดใหญ่ก็สวยไม่แพ้กัน
- วัสดุ – ควรเลือกวัสดุธรรมชาติ เช่น ขนนกจริง เชือกฝ้าย จะให้พลังที่ดีกว่าวัสดุสังเคราะห์
- ลวดลาย – ลวดลายที่ซับซ้อนจะช่วยดักฝันได้ดีกว่า แต่ก็ต้องดูว่าเข้ากับสไตล์การแต่งห้องของเราไหม
เลือกให้ถูกใจและถูกโฉลกกับตัวเอง รับรองว่าจะได้ทั้งของแต่งบ้านสวยๆ และเครื่องรางช่วยให้นอนหลับฝันดีไปพร้อมๆ กัน
วิธีทำ Dream Catcher ด้วยตัวเอง ง่ายแถมประหยัด!
ใครอยากได้ Dream Catcher แบบเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ลองมาทำเองดูสิ! รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิด แถมยังสนุกและประหยัดกว่าซื้อเยอะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ห่วงโลหะหรือกิ่งไม้ดัดเป็นวงกลม
- เชือกหรือด้าย
- ลูกปัด
- ขนนก (จะใช้ขนนกปลอมก็ได้นะ)
- กรรไกร
วิธีทำ
- เริ่มจากพันเชือกรอบๆ ห่วงให้ทั่ว
- สานใยตรงกลางโดยใช้เชือกพันไปมาเป็นลวดลายที่ชอบ
- ร้อยลูกปัดเข้าไปในใยตามชอบ
- ผูกขนนกไว้ด้านล่างของห่วง
- ตกแต่งเพิ่มเติมตามใจชอบ เช่น ติดดอกไม้แห้ง หรือระบายสี
เท่านี้ก็ได้ Dream Catcher สุดเก๋ฝีมือตัวเองแล้ว! ลองเอาไปแขวนในห้องดูสิ รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องทึ่งแน่นอน
วิธีใช้ Dream Catcher ให้ได้ผลสูงสุด
แค่แขวน Dream Catcher ไว้ในห้องก็ดีแล้ว แต่ถ้าอยากให้ได้ผลดีที่สุด ลองทำตามวิธีนี้ดู
- แขวนไว้เหนือหัวนอน ให้ Dream Catcher อยู่ใกล้กับเราที่สุดขณะหลับ
- หันด้านที่มีขนนกเข้าหาตัวเรา เพื่อให้ฝันดีๆ ไหลผ่านขนนกมาหาเราได้ง่าย
- ทำความสะอาดเป็นประจำ โดยการนำไปผึ่งแดดหรือใช้ควันธูปรมเบาๆ เพื่อชำระพลังงานเก่าๆ ออกไป
- ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอน ขอให้ Dream Catcher ช่วยปกป้องเราจากฝันร้าย
- ถ้ารู้สึกว่า Dream Catcher หมดพลัง ให้นำไปฝังดินหรือแขวนไว้บนต้นไม้ แล้วทำอันใหม่มาใช้แทน
ເຮັດແນວນີ້ແລະເຈົ້າໄດ້ຮັບການຮັບປະກັນທີ່ຈະໄດ້ຮັບ Dream Catcher ທີ່ມີປະສິດທິພາບທີ່ສຸດ.