สายมูต้องห้ามพลาด! 10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่นที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

สายมูต้องห้ามพลาด! 10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่นที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

ใครว่าญี่ปุ่นมีแค่ซากุระ ซูชิ หรือภูเขาไฟฟูจิ? เชื่อเถอะว่าดินแดนอาทิตย์อุทัยนี้ซ่อนพลังลึกลับที่รอให้คุณไปสัมผัส! ลองนึกภาพดูสิ คุณยืนอยู่ท่ามกลางป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุนับพันปี หรือกำลังสวดมนต์ในวัดโบราณที่มีเรื่องเล่าขานต่อกันมา มันจะเป็นยังไงถ้าคุณได้สัมผัสพลังงานบริสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณมาหลายชั่วอายุคน?

ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความเชื่อและพลังลึกลับ ทุกซอกทุกมุมของประเทศนี้ซ่อนเรื่องราวทางจิตวิญญาณที่รอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าคุณจะเป็นຊາມູตัวยง หรือแค่อยากลองอะไรใหม่ๆ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่นที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล!

1. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) – เส้นทางสู่พรที่ไม่มีวันหมด

เริ่มกันที่ศาลเจ้าสีแดงสดใสที่โด่งดังไปทั่วโลก ฟูชิมิ อินาริ ในเกียวโต ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูปสวยๆ แต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความสำเร็จมาให้

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านอุโมงค์โทริอิสีแดงนับพันต้นที่ทอดยาวขึ้นไปบนเขาอินาริ แต่ละก้าวที่คุณเดินผ่านซุ้มประตูเหล่านี้ เหมือนกับคุณกำลังก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างทางขึ้นเขา คุณจะเจอจุดพักที่มีศาลเจ้าเล็กๆ ซ่อนอยู่ ที่นี่แหละที่คนญี่ปุ่นมักจะแวะสักการะและขอพร บางคนบอกว่าถ้าอธิษฐานที่นี่แล้วจะสมหวังเร็วกว่าที่อื่น ลองดูสิว่าคุณจะรู้สึกถึงพลังลึกลับนั้นไหม

ปลายทางบนยอดเขา คุณจะได้ชมวิวเมืองเกียวโตแบบพาโนรามา มันเหมือนกับว่าคุณได้ก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดและมาถึงจุดสูงสุดของชีวิต ลองหลับตาแล้วตั้งจิตอธิษฐาน เชื่อเถอะว่าพลังของที่นี่จะส่งความปรารถนาของคุณไปถึงฟ้า

2. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) – น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาและความรัก

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เติมพลังให้ชีวิต ต้องไม่พลาดวัดคิโยมิสึ วัดพุทธเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาในเกียวโต วัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากน้ำตกโอโตวะ

ที่น้ำตกนี้ คุณจะเห็นผู้คนต่อแถวยาวเพื่อรอดื่มน้ำจากสายน้ำสามสาย แต่ละสายมีความหมายต่างกัน สายหนึ่งให้สุขภาพดี อีกสายให้ความสำเร็จในการเรียน และสายสุดท้ายให้โชคในเรื่องความรัก แต่ระวังนะ ห้ามดื่มทั้งสามสาย มิฉะนั้นอาจจะโลภมากไปหน่อย!

นอกจากนี้ วัดคิโยมิสึยังมีระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปจากตัววัด มองลงไปเห็นวิวป่าเมเปิ้ลสวยงาม เขาว่ากันว่าถ้าใครกล้าเดินข้ามระเบียงนี้โดยไม่มองลงไปข้างล่าง จะได้พบเนื้อคู่ในเร็ววัน ลองดูสิว่าคุณกล้าพอไหม!

3. ป่าศักดิ์สิทธิ์คุมาโนะ โคโดะ (Kumano Kodo) – เส้นทางแสวงบุญที่เปลี่ยนชีวิต

ถ้าคุณอยากหาอะไรที่ท้าทายกว่านั้น ลองมาเดินป่าศักดิ์สิทธิ์คุมาโนะ โคโดะดู นี่คือเส้นทางแสวงบุญโบราณที่มีอายุกว่าพันปี ทอดยาวผ่านป่าเขาในคาบสมุทรคิอิ

เส้นทางนี้ไม่ใช่แค่การเดินป่าธรรมดา แต่เป็นการเดินทางค้นหาตัวเอง ระหว่างทาง คุณจะได้ผ่านศาลเจ้าเล็กๆ น้ำตก และจุดชมวิวสวยๆ มากมาย แต่ละจุดมีพลังงานพิเศษที่จะช่วยชำระล้างจิตใจของคุณ

หนึ่งในไฮไลท์ของเส้นทางนี้คือ น้ำตกนาชิ ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำตกนี้เป็นที่สถิตของเทพเจ้า การได้ยืนอยู่ต่อหน้าน้ำตกขนาดมหึมานี้ จะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติและความยิ่งใหญ่ของจักรวาล

ที่ปลายทาง คุณจะได้พบกับศาลเจ้าคุมาโนะ ไทฉะ ที่เชื่อกันว่าเป็นจุดกำเนิดของศาสนาชินโตในญี่ปุ่น การได้มาถึงที่นี่ ไม่ใช่แค่การจบเส้นทาง แต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจ

4. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) – ดินแดนแห่งเทพเจ้าและสวรรค์บนดิน

ถ้าคุณอยากสัมผัสดินแดนที่เหมือนหลุดออกมาจากนิทาน ต้องไปเยือนเกาะมิยาจิมะ เกาะเล็กๆ ใกล้เมืองฮิโรชิมา ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

สิ่งแรกที่คุณจะเห็นเมื่อเรือใกล้ถึงเกาะคือ เสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล ดูเหมือนกำลังลอยอยู่บนผิวน้ำ นี่คือประตูสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะพาคุณเข้าสู่โลกอีกใบ

บนเกาะ คุณจะได้เยี่ยมชมศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ที่สร้างยื่นออกไปในทะเล เมื่อน้ำขึ้นสูง ศาลเจ้าจะดูเหมือนลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างภาพที่ดูเหนือจริง คนญี่ปุ่นเชื่อว่าที่นี่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกของเทพเจ้า

อย่าลืมแวะไหว้พระใหญ่ไดบุตสึที่วัดไดโชอิน พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่นั่งสมาธิอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี การได้นั่งสมาธิต่อหน้าพระใหญ่ จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

ก่อนกลับ อย่าลืมลองขนมท้องถิ่นอย่างโมมิจิมันจู ขนมรูปใบเมเปิ้ลที่เชื่อว่ากินแล้วจะโชคดี ใครจะรู้ว่าขนมชิ้นเล็กๆ นี้อาจจะนำโชคมาให้คุณก็ได้

5. ภูเขาโคยะ (Mount Koya) – สถานที่ปลุกพลังจิตวิญญาณ

ถ้าคุณกำลังมองหาที่ที่จะช่วยฟื้นฟูจิตใจและปลุกพลังภายใน ภูเขาโคยะคือคำตอบ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายชิงงอนในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนยอดเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าสนซีดาร์อายุนับร้อยปี

ง ภูเขาโคยะ คุณจะรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกอีกใบ อากาศบริสุทธิ์และความเงียบสงบจะช่วยชำระล้างจิตใจของคุณทันที

ไฮไลท์ของที่นี่คือวัดโคงบุจิ ศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายชิงงอน ที่นี่คุณสามารถเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ยามเช้าพร้อมกับพระสงฆ์ เสียงสวดมนต์ที่ก้องกังวานในวิหารโบราณจะสั่นสะเทือนจิตวิญญาณของคุณ ทำให้คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอันกว้างใหญ่

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินผ่านสุสาน โอคุโนอิน ป่าช้าโบราณที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทางเดินยาวกว่า 2 กิโลเมตรผ่านป่าสนซีดาร์อายุนับร้อยปี สองข้างทางเต็มไปด้วยหลุมศพและอนุสาวรีย์โบราณ บรรยากาศที่นี่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่กลับให้ความรู้สึกสงบและเป็นอมตะ ทำให้คุณได้ใคร่ครวญถึงความหมายของชีวิตและความตาย

ที่ภูเขาโคยะ คุณยังสามารถพักค้างคืนที่วัดและลองทำสมาธิแบบเซน การนั่งสมาธิในห้องที่มองเห็นสวนหินญี่ปุ่นสวยงาม จะช่วยให้คุณค้นพบความสงบภายในจิตใจ และอาจจะได้คำตอบบางอย่างที่คุณกำลังมองหา

6. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) – พลังแห่งจักรพรรดิในใจกลางโตเกียว

จากความสงบของภูเขาโคยะ เรามาสู่ความวุ่นวายของโตเกียวกันบ้าง แต่ไม่ต้องกังวล เพราะในใจกลางเมืองหลวงที่พลุกพล่านนี้ ก็มีโอเอซิสทางจิตวิญญาณซ่อนอยู่ นั่นคือศาลเจ้าเมจิ

ศาลเจ้าเมจิตั้งอยู่ในป่าที่ปลูกขึ้นใหม่กว่า 100,000 ต้น ทันทีที่ก้าวเข้าไปในบริเวณศาลเจ้า คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดออกจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เสียงรถและผู้คนจะเงียบหายไป แทนที่ด้วยเสียงนกร้องและลมพัดผ่านใบไม้

ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงจักรพรรดิเมจิและพระราชินีโชเคน ผู้นำการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเชื่อว่าวิญญาณของทั้งสองพระองค์ยังคงสถิตอยู่ที่นี่ คอยปกปักรักษาประเทศชาติ

เมื่อเข้าไปในเขตศาลเจ้าชั้นใน คุณจะเห็นต้นไม้ยักษ์ที่ผูกผ้าสีขาว นี่คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่ามีวิญญาณสิงสถิตอยู่ คนญี่ปุ่นมักจะมาขอพรที่นี่ โดยเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้เล็กๆ แล้วแขวนไว้ที่ต้นไม้ ลองทำดูสิ ใครจะรู้ว่าวิญญาณของจักรพรรดิอาจจะช่วยให้คำอธิษฐานของคุณเป็นจริงก็ได้

อย่าลืมแวะดื่มน้ำชาที่สวนญี่ปุ่นใกล้ๆ ศาลเจ้า การได้นั่งจิบชาท่ามกลางธรรมชาติ จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งรอบตัว

7. วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) – สัมผัสพลังศรัทธาที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว

จากความสงบของศาลเจ้าเมจิ เรามาสู่ความคึกคักของวัดเซนโซจิกันบ้าง วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ที่นี่คือหัวใจของย่านอาซากุสะ ย่านเก่าแก่ที่ยังคงกลิ่นอายของโตเกียวในอดีต

ทางเข้าวัดคือประตูคามินาริมอน หรือประตูฟ้าผ่า ที่มีโคมแดงขนาดยักษ์แขวนอยู่ เชื่อกันว่าถ้าเดินผ่านประตูนี้แล้วสูดควันธูปเข้าไป จะช่วยขับไล่โรคภัยไข้เจ็บ

จากประตู คุณจะเดินผ่านถนนนากามิเสะ ถนนช้อปปิ้งเก่าแก่ที่ขายของที่ระลึกและขนมโบราณ ลองแวะชิมเซมเบ้ ขนมข้าวอบกรอบรสชาติต่างๆ ที่เชื่อว่ากินแล้วจะโชคดี

เมื่อถึงตัววัด คุณจะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ที่มีควันลอยฟุ้ง คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการโบกควันธูปไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จะช่วยรักษาโรคในบริเวณนั้น ลองทำดูสิ อาจจะช่วยบำบัดโรคที่คุณเป็นอยู่ก็ได้

ไฮไลท์ของวัดนี้คือการเสี่ยงเซียมซี ที่เรียกว่า โอมิคุจิ วิธีการคือเขย่ากระบอกไม้จนได้แท่งไม้ที่มีตัวเลขกำกับ แล้วหยิบกระดาษทำนายที่มีเลขตรงกัน คำทำนายจะบอกโชคชะตาของคุณในด้านต่างๆ แต่ถ้าได้คำทำนายไม่ดี ไม่ต้องกังวล แค่เอาไปผูกไว้ที่ราวเหล็กใกล้ๆ เชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดีได้

ເລື່ອນໄປເທິງ