สายมู

ใครๆ ก็รู้จักไพ่ทาโรต์ แต่น้อยคนนักที่เข้าใจความหมายลึกซึ้งของมัน ไพ่ทาโรต์ไม่ใช่แค่การ์ดธรรมดา แต่มันเป็นประตูสู่โลกแห่งจิตวิญญาณและการค้นหาตัวตน วันนี้เราจะพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกของไพ่ทาโรต์ ไปสำรวจความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังภาพวาดสวยงามบนไพ่แต่ละใบกัน ต้นกำเนิดของไพ่ทาโรต์ ย้อนกลับไปในอดีต ไพ่ทาโรต์มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปหลายศตวรรษ มันถือกำเนิดขึ้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 15 เริ่มแรกใช้เล่นไพ่เพื่อความบันเทิง แต่ต่อมาได้วิวัฒนาการกลายเป็นเครื่องมือในการทำนายดวงชะตา ไพ่ทาโรต์ชุดแรกๆ มีลวดลายวาดด้วยมือ แสดงภาพตัวละครและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่สื่อความหมายลึกซึ้ง ในยุคกลาง ไพ่ทาโรต์ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและนักพยากรณ์ พวกเขาใช้ไพ่เพื่อค้นหาคำตอบของชีวิตและอนาคต ความเชื่อเรื่องพลังลึกลับของไพ่ทาโรต์แพร่หลายไปทั่วยุโรป จนกระทั่งในศตวรรษที่ 18 นักปราชญ์ด้านจิตวิญญาณได้พัฒนาระบบการตีความไพ่ทาโรต์อย่างเป็นระบบขึ้นมา โครงสร้างของไพ่ทาโรต์ เจาะลึกองค์ประกอบสำคัญ ไพ่ทาโรต์ประกอบด้วยไพ่ทั้งหมด 78 ใบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ไพ่ไมเนอร์อาร์คานา (Minor Arcana) 56 ใบ และไพ่เมเจอร์อาร์คานา (Major Arcana) 22 ใบ ไพ่ไมเนอร์อาร์คานาแบ่งออกเป็น 4 ชุด ได้แก่ ถ้วย (Cups) เหรียญ (Pentacles) ไม้เท้า (Wands) และดาบ […]

มือของเราบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด นอกจากจะใช้จับ หยิบ ฉวย แล้ว มันยังเป็นแผนที่ชีวิตที่ซ่อนความลับของเราเอาไว้ด้วยนะ การดูลายมือเป็นศาสตร์โบราณที่ว่ากันว่าสามารถทำนายอุปนิสัย ความสามารถ และอนาคตของคนเราได้ แค่ดูจากเส้นลายบนฝ่ามือเท่านั้นเอง เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคนเราถึงมีลายมือไม่เหมือนกัน แม้แต่ฝาแฝดยังมีลายมือต่างกันเลย นั่นเพราะลายมือของเราเป็นเหมือนลายเซ็นเฉพาะตัวที่ธรรมชาติมอบให้ มันบ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเราได้ดีกว่าอะไรหลายๆ อย่างเสียอีก แล้วการดูลายมือมันมีอะไรบ้าง ทำยังไง แปลความหมายแบบไหน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับศาสตร์แห่งการอ่านลายมือกันแบบจัดเต็ม เตรียมฝ่ามือไว้ให้พร้อม แล้วมาดูกันว่าลายเส้นบนมือของคุณจะเผยความลับอะไรบ้าง ประวัติความเป็นมาของการดูลายมือ ย้อนรอยอดีตสู่ปัจจุบัน การดูลายมือมีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปถึงสมัยโบราณ มีการค้นพบภาพวาดฝ่ามือในถ้ำที่อินเดียและสเปนซึ่งมีอายุกว่า 5,000 ปี แสดงให้เห็นว่ามนุษย์สนใจในลายมือมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้ว ในสมัยกรีกโบราณ อริสโตเติลได้เขียนถึงการดูลายมือไว้ในงานเขียนของเขา และยังมีการพบบันทึกเกี่ยวกับการดูลายมือในอียิปต์โบราณด้วย ส่วนในจีนก็มีตำราการดูลายมือมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว ในยุคกลางของยุโรป การดูลายมือถูกมองว่าเป็นไสยศาสตร์และถูกห้ามโดยศาสนจักร แต่ก็ยังคงแพร่หลายในหมู่ชาวยิปซีและนักพยากรณ์ทั่วไป จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 การดูลายมือได้รับความสนใจอีกครั้งในฐานะศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาอย่างจริงจัง ปัจจุบัน การดูลายมือได้รับการพัฒนาและผสมผสานกับศาสตร์สมัยใหม่ เช่น จิตวิทยาและการแพทย์ ทำให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แม้จะยังไม่ได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีผู้สนใจศึกษาและใช้ประโยชน์จากศาสตร์นี้อย่างแพร่หลาย องค์ประกอบพื้นฐานของการดูลายมือ รู้จักเส้นสายบนฝ่ามือ ก่อนจะเริ่มดูลายมือ เราต้องรู้จักองค์ประกอบพื้นฐานบนฝ่ามือกันก่อน ฝ่ามือของเราประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่สำคัญดังนี้ เส้นชีวิต บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไป เส้นชีวิตเป็นเส้นโค้งที่อยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ วิ่งลงมาทางข้อมือ

มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละราศีมีเครื่องรางอะไรที่ช่วยเสริมดวง เพิ่มพลัง และนำโชคมาให้แบบจัดเต็ม! บอกเลยว่าแต่ละอย่างไม่ธรรมดาอาจทำให้ชีวิตคุณพลิกผันได้ในพริบตา มาดูกันว่าราศีของคุณเหมาะกับเครื่องรางแบบไหน แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือไอเท็มเด็ดที่อาจทำให้ปีนี้ของคุณปังสุดๆ! ราศีเมษ (21 มีนาคม – 19 เมษายน) หินทับทิมแดง พลังแห่งความกล้าหาญ ชาวราศีเมษ นักสู้ตัวยงประจำจักรราศี เครื่องรางที่เหมาะกับคุณที่สุดคือหินทับทิมแดง หินสีแดงเข้มนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่ยังเชื่อกันว่ามีพลังในการเสริมความกล้าหาญและพลังชีวิตให้กับผู้ครอบครอง หินทับทิมแดงมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในอดีตนักรบมักพกติดตัวเพื่อปกป้องตนเองจากอันตรายและเพิ่มความกล้าในการต่อสู้ สำหรับชาวราศีเมษที่มักจะหุนหันพลันแล่น หินนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น วิธีใช้หินทับทิมแดงให้ได้ผลดีที่สุด ลองทำเป็นสร้อยคอหรือแหวนสวมใส่ติดตัว หรือจะวางไว้ใต้หมอนตอนนอนก็ได้ เชื่อกันว่าจะช่วยให้คุณฝันดีและตื่นมาพร้อมพลังเต็มเปี่ยม แถมยังช่วยดึงดูดโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตอีกด้วย หินทับทิมแดงยังเชื่อว่าช่วยกระตุ้นความปรารถนาและความหลงใหล เหมาะมากสำหรับชาวราศีเมษที่กำลังมองหาความรักหรือต้องการเพิ่มไฟในความสัมพันธ์ ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20 พฤษภาคม) จี้รูปวัวทองคำ สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ชาวราศีพฤษภที่รักความสบายและความมั่นคง เครื่องรางที่เหมาะกับคุณที่สุดคือจี้รูปวัวทองคำ สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง จี้รูปวัวทองคำนี้ไม่ได้สวยแค่ภายนอก แต่ยังเชื่อกันว่ามีพลังในการดึงดูดความมั่งคั่งและโชคลาภเข้ามาในชีวิต วัวเป็นสัตว์ที่แข็งแรงและอดทน เหมือนกับนิสัยของชาวราศีพฤษภ การพกพาจี้นี้จะช่วยเตือนใจให้คุณมุ่งมั่นและอดทนในการทำงาน วิธีใช้จี้รูปวัวทองคำให้ได้ผลดีที่สุด ลองสวมเป็นสร้อยคอหรือห้อยไว้ในกระเป๋าสตางค์ เชื่อกันว่าจะช่วยดึงดูดเงินทองและโอกาสทางธุรกิจเข้ามา แต่อย่าลืมว่าต้องดูแลรักษาให้ดี ชาวราศีพฤษภบางคนถึงกับเอาจี้นี้ไปวางไว้บนโต๊ะทำงานเพื่อเสริมพลังในการหาเงิน จี้รูปวัวทองคำยังเชื่อว่าช่วยเสริมความมั่นคงในความสัมพันธ์ด้วย เหมาะมากสำหรับชาวราศีพฤษภที่กำลังมองหาคู่ครองที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเครื่องรางสุดเจ๋งจากชาวยิปซีกัน รับรองว่าแต่ละชิ้นเด็ดจริง ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังช่วยเสริมดวงได้แบบจัดเต็ม เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือ 10 ไอเท็มเด็ดที่จะทำให้ชีวิตคุณปังขึ้นแบบไม่รู้ตัว! 1. ลูกปัดตาปลา เสน่ห์แรงล้นจนต้องเหลียวมอง ลูกปัดตาปลา หรือที่ชาวยิปซีเรียกว่า “นาซาร์” เป็นลูกปัดสีฟ้าเข้มที่มีลวดลายคล้ายตา ชาวยิปซีเชื่อว่ามันช่วยป้องกันคำสาปและพลังงานด้านลบ แถมยังเสริมเสน่ห์ให้ผู้สวมใส่ดึงดูดสายตาคนรอบข้างอีกด้วย วิธีใช้ลูกปัดตาปลานั้นง่ายนิดเดียว แค่สวมเป็นสร้อยคอ กำไลข้อมือ หรือแม้แต่ห้อยไว้ในรถ ก็ช่วยปกป้องคุณได้แล้ว ที่เจ๋งสุดคือ ยิ่งใส่นาน ลูกปัดยิ่งซึมซับพลังงานของคุณ กลายเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ลูกปัดตาปลามีหลายขนาด ตั้งแต่จิ๋วแค่ 0.5 เซนติเมตรไปจนถึงใหญ่โตขนาด 20 เซนติเมตร ชาวยิปซีเชื่อว่าขนาดใหญ่จะให้พลังมากกว่า แต่จะใช้แบบไหนก็ได้ผลเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน 2. กำไลเชือกแดง มัดใจรักให้แน่นหนึ่ง กำไลเชือกแดงอาจดูธรรมดา แต่พลังของมันไม่ธรรมดาเลย ชาวยิปซีเชื่อว่าสีแดงเป็นสีแห่งความรักและโชคลาภ การสวมกำไลเชือกแดงจึงเป็นการดึงดูดพลังงานด้านบวกเหล่านี้เข้ามาในชีวิต วิธีทำกำไลเชือกแดงแบบยิปซีนั้นมีเคล็ดลับอยู่ ต้องใช้เชือกสีแดงสด ความยาวเท่ากับเส้นรอบวงของข้อมือบวกอีก 10 เซนติเมตร จากนั้นผูกเงื่อนเจ็ดครั้ง แต่ละครั้งให้อธิษฐานขอพรหนึ่งอย่าง เสร็จแล้วให้คนที่คุณรักเป็นคนผูกให้ที่ข้อมือซ้าย ที่สำคัญ อย่าแกะกำไลออกเอง ต้องรอให้มันขาดเองตามธรรมชาติ เชื่อกันว่าตอนที่กำไลขาด

ใครว่าสายมูมีแต่ในเมืองไทย? ผิดถนัด! แดนมะกันก็มีสายมูเหมือนกันนะเออ แถมยังเจ๋งไม่แพ้บ้านเราซะด้วย มาดูกันว่าสายมูอเมริกันเขาเชื่ออะไรกันบ้าง แล้วมันคูลขนาดไหน จากฮิปปี้สู่นิวเอจ ต้นกำเนิดสายมูอเมริกัน รู้มั้ยว่าสายมูในอเมริกาเริ่มต้นยังไง? ย้อนกลับไปช่วงยุค 60s-70s เลยนะเว้ย! ตอนนั้นมีกลุ่มฮิปปี้ที่เบื่อวิถีชีวิตแบบทุนนิยม เลยหันมาสนใจเรื่องจิตวิญญาณแทน พวกเขาเริ่มศึกษาปรัชญาตะวันออก โยคะ สมาธิ แล้วก็ผสมผสานกับความเชื่อดั้งเดิมของชาวอินเดียนแดง จากตรงนั้นแหละ มันก็กลายเป็นกระแสที่เรียกว่า “นิวเอจ” ขึ้นมา คนอเมริกันเริ่มสนใจเรื่องพลังงาน จักรวาล การเยียวยาด้วยพลังธรรมชาติ มันเป็นทางเลือกใหม่ที่แตกต่างจากศาสนากระแสหลักอย่างคริสต์ศาสนา คริสตัลเธอราปี พลังหินศักดิ์สิทธิ์ พูดถึงสายมูอเมริกัน ต้องพูดถึงคริสตัลเธอราปีเลย! เชื่อมั้ยว่าหินสวยๆ พวกนี้มีพลังพิเศษ? คนอเมริกันเชื่อกันว่าคริสตัลแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว บางก้อนช่วยเรื่องความรัก บางก้อนช่วยเรื่องการงาน วิธีใช้ก็ง่ายฉิบ แค่เอาไปวางไว้ในบ้าน พกติดตัว หรือจะเอามาทำเป็นเครื่องประดับก็ได้ บางคนถึงขั้นเอามาวางบนร่างกายเพื่อปรับสมดุลพลังงาน เรียกว่าเป็นการบำบัดแบบ holistic เลยทีเดียว ไพ่ทาโรต์ เปิดดวงสไตล์อเมริกัน อีกอย่างที่ฮิตสุดๆ ในหมู่สายมูอเมริกันก็คือการดูดวงด้วยไพ่ทาโรต์ ไพ่พวกนี้มีภาพสวยๆ แต่ละใบมีความหมายลึกซึ้ง คนอเมริกันเชื่อว่ามันสามารถทำนายอนาคตและให้คำแนะนำในชีวิตได้ การดูดวงด้วยไพ่ทาโรต์ไม่ได้มีแค่ในร้านดูดวงนะ ตอนนี้มันกลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตในปาร์ตี้วัยรุ่นไปแล้ว ลองนึกภาพดูสิ เพื่อนๆ นั่งล้อมวงกัน

ชีวิตนี้มันไม่ง่ายอยู่แล้ว แถมบางทีก็รู้สึกว่าโชคชะตาไม่เข้าข้างซะเลย เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนดูโชคดีตลอด ส่วนเราซวยแบบไม่มีที่มาที่ไป? บางทีอาจจะเป็นเพราะเราทำอะไรบางอย่างที่ไปขัดกับกฎแห่งจักรวาลโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ ถ้าเป็นสายมูตัวยง หรือแค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเรียกโชค บทความนี้มีคำตอบให้! เราจะมาดูกัน 7 ข้อห้ามสุดขลังที่สายมูต้องรู้ ถ้าอยากโชคดีตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ลองทำตามดูสักครั้ง รับรองว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน! 1. อย่าเพิ่งดีใจ! ห้ามเฉลิมฉลองก่อนประสบความสำเร็จ ใครเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “อย่าโม้ก่อนมีดอก” บ้าง? นี่แหละคือหลักการเดียวกัน! การเฉลิมฉลองหรือโพสต์อวดในโซเชียลก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ อาจจะทำให้โชคดีที่กำลังจะมาหยุดชะงักได้ ลองนึกภาพดูว่าเรากำลังจะได้งานใหม่ที่ใฝ่ฝันมานาน แต่ดันไปโพสต์เฟซบุ๊กบอกเพื่อนๆ ก่อนที่จะเซ็นสัญญา ผลคือบริษัทเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย… เจ็บปวดแค่ไหน! แทนที่จะรีบดีใจ ลองเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจก่อน แล้วค่อยๆ ทำให้มันสำเร็จทีละขั้น พอทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ค่อยจัดปาร์ตี้ใหญ่ฉลองกันให้สุดเหวี่ยง! แบบนี้ความสำเร็จจะอยู่กับเราไปนานๆ 2. ระวังให้ดี! ห้ามเดินลอดราวตากผ้าเด็ดขาด หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้งมงาย แต่ในความเชื่อของคนไทยและหลายชาติในเอเชีย การเดินลอดราวตากผ้าถือเป็นเรื่องอัปมงคลสุดๆ เหตุผลก็คือ ราวตากผ้าเปรียบเสมือนเส้นแบ่งระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ การเดินลอดใต้ราวตากผ้าเท่ากับเราก้าวข้ามเส้นนั้น ทำให้วิญญาณร้ายสามารถติดตามเรามาได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าการเดินลอดราวตากผ้าจะทำให้เราเตี้ยลง โชคร้ายติดตัว หรือแม้แต่อายุสั้น! ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ? แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าบังเอิญเดินลอดไปแล้ว แค่เดินย้อนกลับไปทางเดิม

ใครว่าญี่ปุ่นมีแค่ซากุระ ซูชิ หรือภูเขาไฟฟูจิ? เชื่อเถอะว่าดินแดนอาทิตย์อุทัยนี้ซ่อนพลังลึกลับที่รอให้คุณไปสัมผัส! ลองนึกภาพดูสิ คุณยืนอยู่ท่ามกลางป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุนับพันปี หรือกำลังสวดมนต์ในวัดโบราณที่มีเรื่องเล่าขานต่อกันมา มันจะเป็นยังไงถ้าคุณได้สัมผัสพลังงานบริสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณมาหลายชั่วอายุคน? ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความเชื่อและพลังลึกลับ ทุกซอกทุกมุมของประเทศนี้ซ่อนเรื่องราวทางจิตวิญญาณที่รอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายมูตัวยง หรือแค่อยากลองอะไรใหม่ๆ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่นที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล! 1. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) – เส้นทางสู่พรที่ไม่มีวันหมด เริ่มกันที่ศาลเจ้าสีแดงสดใสที่โด่งดังไปทั่วโลก ฟูชิมิ อินาริ ในเกียวโต ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูปสวยๆ แต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความสำเร็จมาให้ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านอุโมงค์โทริอิสีแดงนับพันต้นที่ทอดยาวขึ้นไปบนเขาอินาริ แต่ละก้าวที่คุณเดินผ่านซุ้มประตูเหล่านี้ เหมือนกับคุณกำลังก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างทางขึ้นเขา คุณจะเจอจุดพักที่มีศาลเจ้าเล็กๆ ซ่อนอยู่ ที่นี่แหละที่คนญี่ปุ่นมักจะแวะสักการะและขอพร บางคนบอกว่าถ้าอธิษฐานที่นี่แล้วจะสมหวังเร็วกว่าที่อื่น ลองดูสิว่าคุณจะรู้สึกถึงพลังลึกลับนั้นไหม ปลายทางบนยอดเขา คุณจะได้ชมวิวเมืองเกียวโตแบบพาโนรามา มันเหมือนกับว่าคุณได้ก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดและมาถึงจุดสูงสุดของชีวิต ลองหลับตาแล้วตั้งจิตอธิษฐาน เชื่อเถอะว่าพลังของที่นี่จะส่งความปรารถนาของคุณไปถึงฟ้า 2. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) – น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาและความรัก ถ้าคุณกำลังมองหาที่เติมพลังให้ชีวิต ต้องไม่พลาดวัดคิโยมิสึ วัดพุทธเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาในเกียวโต วัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากน้ำตกโอโตวะ ที่น้ำตกนี้ คุณจะเห็นผู้คนต่อแถวยาวเพื่อรอดื่มน้ำจากสายน้ำสามสาย

ชีวิตติดลบ? งานไม่ปัง? ความรักไม่ปึ้ง? บางทีอาจเป็นเพราะกรรมเก่าตามมาทวงคืน! แต่ไม่ต้องกลัว วันนี้เรามี 9 วิธีแก้กรรมสุดปังแบบสายมูมาฝาก รับรองว่าทำตามแล้วชีวิตจะพลิกผันแบบ 180 องศา! ทำไมต้องแก้กรรม? ก่อนจะไปดูวิธีแก้กรรม มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมเราถึงต้องแก้กรรม ในความเชื่อทางพุทธศาสนาและฮินดู กรรมคือผลของการกระทำในอดีต ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติก่อน เมื่อเรารู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยดี มีแต่เรื่องแย่ๆ เข้ามา นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องแก้กรรมแล้ว! 1. สะเดาะเคราะห์แบบเต็มสูตร วิธีแก้กรรมแบบดั้งเดิมที่ได้ผลมาหลายยุคหลายสมัย คือการสะเดาะเคราะห์ แต่ไม่ใช่แค่ไปวัดแล้วทำพิธีลวกๆ นะ ต้องทำแบบเต็มสูตร! เชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยชำระล้างกรรมเก่าและเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิต 2. สักยันต์มหาอำนาจ ถ้าใครกล้าพอ ลองสักยันต์ดูสิ! ยันต์ไม่ใช่แค่รอยสักธรรมดา แต่เป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่ามีพลังในการปกป้องคุ้มครองและแก้กรรม แต่ต้องระวังนะ การสักยันต์ต้องทำกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือเท่านั้น! 3. บวชป่า 9 วัน 9 คืน สำหรับผู้ชาย การบวชป่าถือเป็นวิธีแก้กรรมที่ทรงพลังมาก เชื่อกันว่าการใช้ชีวิตในป่าจะช่วยชำระจิตใจและกรรมเก่า การบวชป่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างมหาศาล 4. ทำบุญข้ามภพข้ามชาติ การทำบุญธรรมดาอาจไม่พอ ลองทำบุญข้ามภพข้ามชาติดูสิ! วิธีนี้เชื่อว่าจะช่วยแก้กรรมที่ติดค้างมาจากชาติก่อน การทำบุญแบบนี้เชื่อว่าจะช่วยตัดกรรมและสร้างบุญใหม่ได้อย่างมหาศาล

ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางทีก็เจอแต่เรื่องซวยๆ จนอยากจะร้องไห้ แต่อย่าเพิ่งท้อ! วันนี้เรามีเทคนิคเด็ดๆ มาแนะนำ รับรองว่าทำตามแล้วชีวิตจะพลิกจากร้ายกลายเป็นดีแบบปุ๊บปั๊บ! ทำไมต้องรับมือกับดวงซวย? ก่อนจะไปดูเทคนิค มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมเราถึงต้องรับมือกับดวงซวย ในความเชื่อของคนไทย ดวงชะตาของเรามีขึ้นมีลง บางช่วงอาจจะเฮงสุดๆ แต่บางช่วงก็ซวยแบบสุดๆ เหมือนกัน การรู้จักรับมือกับช่วงดวงตกจะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ ไปได้ และพร้อมรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามา 1. เสริมดวงด้วยสีมงคล สีสันมีพลังมากกว่าที่คิด! การใส่เสื้อผ้าหรือใช้ของสีมงคลประจำวันเกิดหรือประจำราศีของคุณ เชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงได้ แค่เปลี่ยนสีเสื้อก็อาจทำให้วันของคุณดีขึ้นแล้ว! 2. พกของมงคลติดตัว ของมงคลไม่ใช่แค่เครื่องประดับธรรมดา แต่เป็นเหมือนเกราะป้องกันดวงซวย ลองพกของมงคลเหล่านี้ติดตัวดู เชื่อว่าของมงคลเหล่านี้จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและดึงดูดโชคดีเข้ามา 3. สวดมนต์บทพิเศษ การสวดมนต์ไม่ใช่แค่ช่วยให้จิตใจสงบ แต่ยังเชื่อว่าช่วยเสริมดวงได้ด้วย ลองสวดบทพิเศษเหล่านี้ สวดทุกเช้าและก่อนนอน รับรองว่าจิตใจจะสงบและมีพลังมากขึ้น 4. ทำบุญตามวันเกิด การทำบุญเป็นวิธีเสริมดวงที่ได้ผลมาตั้งแต่โบราณ แต่รู้ไหมว่าการทำบุญตามวันเกิดจะยิ่งได้ผลดีกว่า นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงชะตาอีกด้วย 5. กินอาหารมงคล อาหารไม่ใช่แค่เติมพลังให้ร่างกาย แต่ยังเชื่อว่าช่วยเสริมดวงได้ด้วย ลองกินอาหารมงคลเหล่านี้ แค่เปลี่ยนเมนูอาหาร ดวงชะตาก็อาจเปลี่ยนแล้ว! 6. เสริมฮวงจุ้ยบ้านและที่ทำงาน ฮวงจุ้ยไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดบ้าน แต่เชื่อว่าสามารถช่วยเสริมดวงและแก้เคล็ดได้ด้วย

เบื่อไหมกับการเที่ยวแบบเดิมๆ? อยากลองอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่กิน เที่ยว ถ่ายรูป? ถ้าใช่ล่ะก็ ทริปเที่ยวเชียงใหม่สายมูนี่แหละที่ใช่เลย! รับรองว่าได้ทั้งความสนุก ความแปลกใหม่ และยังได้เสริมดวงชะตาไปในตัวอีกด้วย มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่ต้องไปโดนให้ได้! ทำไมต้องเที่ยวสายมูที่เชียงใหม่? ก่อนจะไปดูว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมเชียงใหม่ถึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการเที่ยวสายมู เชียงใหม่นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งล้านนา มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมที่เข้มขลัง นอกจากนี้ยังมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย รวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเชื่อว่ามีพลังลึกลับ ทำให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบเรื่องพลังงาน ความเชื่อ และการเสริมดวง วัดพระธาตุดอยสุเทพ ศูนย์รวมจิตใจชาวล้านนา เริ่มต้นทริปสายมูที่วัดพระธาตุดอยสุเทพกันเลย! วัดนี้ไม่ใช่แค่แลนด์มาร์คของเชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวล้านนามาช้านาน เชื่อกันว่าใครได้มานมัสการพระธาตุดอยสุเทพจะได้รับพรและความเป็นสิริมงคล วิธีเสริมดวงที่นี่ ถ้าอยากให้ได้ผลสุดๆ ควรไปตอนเช้าตรู่ เพราะเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่พลังงานบริสุทธิ์ที่สุด วัดอุโมงค์ นั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์โบราณ ถ้าอยากหาที่สงบๆ นั่งสมาธิ วัดอุโมงค์คือคำตอบ! วัดนี้มีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ และมีต้นโพธิ์โบราณอายุกว่า 500 ปี เชื่อกันว่าการนั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์จะช่วยเพิ่มพลังจิต และดึงดูดพลังงานบวกเข้าสู่ตัวเรา กิจกรรมเสริมดวงที่นี่ นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์โบราณให้เดินชม เชื่อว่าการเดินผ่านอุโมงค์จะช่วยชำระล้างพลังงานลบออกจากตัวเรา ดอยคำ ขอพรพญานาคศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ชอบเรื่องพญานาค ต้องไม่พลาดดอยคำ! ที่นี่มีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก คนมักมาขอพรเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ