แนะนำเทคนิคสายมูเพื่อสุขภาพที่ดี

แนะนำเทคนิคสายมูเพื่อสุขภาพที่ดี

ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น แต่รู้มั้ยว่านอกจากการออกกำลังกายหรือทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่กำลังมาแรงในหมู่คนรุ่นใหม่ นั่นก็คือการดูแลสุขภาพแบบสายมู! หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องพวกนี้งมงาย แต่ความจริงแล้วหลักการของสายมูหลายอย่างก็มีที่มาที่ไปทางวิทยาศาสตร์รองรับเหมือนกันนะ

ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงหันมาสนใจเรื่องสายมู?

ชีวิตทุกวันนี้เครียดจัด วุ่นวายสุดๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน ค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นเหมือนจรวด แถมยังต้องเจอกับมลพิษ โรคระบาด และปัญหาสารพัด ไม่แปลกเลยที่คนรุ่นใหม่จะมองหาทางออกที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพแบบสายมูยังเป็นวิธีที่เข้าถึงง่าย ลงทุนน้อย และมีความยืดหยุ่นสูง ใครจะทำตอนไหนก็ได้

1. ฮวงจุ้ยห้องนอนเสริมพลังชีวิต

ห้องนอนคือพื้นที่สำคัญที่สุดของบ้าน เพราะเราใช้เวลาพักผ่อนที่นี่เป็นส่วนใหญ่ การจัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้ถูกต้องจะช่วยให้นอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น แถมยังช่วยเสริมพลังชีวิตได้ด้วย

  • วางเตียงให้หัวเตียงชนกำแพง แต่ไม่ควรอยู่ใต้คาน
  • ไม่ควรวางกระจกตรงข้ามเตียง เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ
  • เลือกใช้โทนสีอ่อนโยน เช่น ครีม เบจ ฟ้าอ่อน
  • จัดให้มีแสงธรรมชาติเข้าถึง แต่ต้องมีผ้าม่านกันแสงด้วย
  • เก็บของให้เป็นระเบียบ ไม่วางของรกรุงรัง

2. เลือกสีเสื้อผ้าเสริมดวง

การแต่งตัวด้วยสีมงคลประจำวันไม่ได้ช่วยแค่เรื่องดวงชะตา แต่ยังส่งผลต่อพลังงานและอารมณ์ของเราด้วย งานวิจัยพบว่าสีที่เราสวมใส่มีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายจริงๆ

  • วันอาทิตย์: สีแดง ส้ม ชมพู
  • วันจันทร์: สีขาว ครีม เงิน
  • วันอังคาร: สีชมพู ม่วง
  • วันพุธ: สีเขียว เทา
  • วันพฤหัสบดี: สีส้ม ทอง น้ำตาล
  • วันศุกร์: สีฟ้า น้ำเงิน
  • วันเสาร์: สีดำ ม่วงเข้ม

3. ดื่มน้ำแร่ธาตุตามราศี

น้ำแร่แต่ละชนิดมีแร่ธาตุที่แตกต่างกัน การเลือกดื่มน้ำแร่ให้เหมาะกับราศีจะช่วยเสริมธาตุที่ขาดได้

  • ราศีเมษ เมถุน สิงห์ ธนู: น้ำแร่ที่มีแมกนีเซียมสูง
  • ราศีพฤษภ กันย์ มังกร: น้ำแร่ที่มีแคลเซียมสูง
  • ราศีเมถุน กันย์ ธนู: น้ำแร่ที่มีซิลิกาสูง
  • ราศีกรกฎ ตุลย์ มีน: น้ำแร่ที่มีโพแทสเซียมสูง

4. นั่งสมาธิตามเวลามงคล

การนั่งสมาธิเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ได้ผลดีมาก แถมถ้าเลือกเวลาให้เหมาะสมจะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้น

  • 5:00-7:00 น. – พลังชี่แรงที่สุด เหมาะกับการเริ่มต้นวันใหม่
  • 11:00-13:00 น. – ช่วงพลังงานสูงสุดของวัน
  • 17:00-19:00 น. – ช่วงปรับสมดุลพลังงาน
  • 21:00-23:00 น. – ช่วงผ่อนคลายก่อนนอน

5. กินอาหารตามธาตุเจ้าเรือน

อาหารแต่ละชนิดมีพลังงานที่แตกต่างกัน การเลือกกินให้เหมาะกับธาตุเจ้าเรือนจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

  • ธาตุไฟ: อาหารรสเผ็ด เช่น พริก ขิง ข่า
  • ธาตุดิน: อาหารรสหวาน เช่น ฟักทอง มันเทศ
  • ธาตุลม: อาหารรสขม เช่น ใบบัวบก ชะพลู
  • ธาตุน้ำ: อาหารรสเค็ม เช่น สาหร่าย ปลา

6. ออกกำลังกายตามราศี

แต่ละราศีมีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน การเลือกวิธีออกกำลังกายให้เหมาะกับราศีจะช่วยให้ได้ผลดีที่สุด

  • ราศีเมษ: วิ่ง มวยไทย คิกบ็อกซิ่ง
  • ราศีพฤษภ: โยคะ พิลาทิส
  • ราศีเมถุน: เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ
  • ราศีกรกฎ: ไทชิ ชี่กง
  • ราศีสิงห์: เวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอ
  • ราศีกันย์: เดิน วิ่งเหยาะๆ
  • ราศีตุลย์: เต้นรำ บัลเล่ต์
  • ราศีพิจิก: ปีนผา มวย
  • ราศีธนู: กีฬากลางแจ้ง เทนนิส
  • ราศีมังกร: โยคะ เดินเขา
  • ราศีกุมภ์: ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
  • ราศีมีน: ว่ายน้ำ เต้นรำ

7. ใช้หินมงคลเสริมพลัง

หินแต่ละชนิดมีพลังงานเฉพาะตัว การเลือกใช้หินให้เหมาะกับตัวเองจะช่วยเสริมพลังชีวิตได้

  • อเมทิสต์: ช่วยให้นอนหลับสบาย ลดความเครียด
  • โรสควอตซ์: เสริมความรัก ความเมตตา
  • ซิทริน: เสริมความมั่งคั่ง พลังชีวิต
  • เทอร์คอยซ์: ป้องกันอันตราย เสริมสุขภาพ
  • แจสเปอร์: เสริมความมั่นคง แข็งแรง

8. ใช้น้ำมันหอมระเหยตามวันเกิด

น้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างกัน การเลือกใช้ให้เหมาะกับวันเกิดจะช่วยเสริมพลังได้ดียิ่งขึ้น

  • วันอาทิตย์: กระดังงา อบเชย
  • วันจันทร์: กุหลาบ มะลิ
  • วันอังคาร: กำยาน ยูคาลิปตัส
  • วันพุธ: ลาเวนเดอร์ คาโมมายล์
  • วันพฤหัสบดี: แพทชูลี่ ส้ม
  • วันศุกร์: มะลิ กุหลาบ
  • วันเสาร์: การบูร ยูคาลิปตัส

9. จัดโต๊ะทำงานตามทิศมงคล

การจัดโต๊ะทำงานให้ถูกทิศจะช่วยเสริมพลังงานดีๆ ให้กับการทำงาน ทำให้มีสมาธิและประสิทธิภาพดีขึ้น

  • ไม่ควรหันหลังให้ประตู
  • วางโต๊ะให้เห็นคนเดินเข้ามา
  • ไม่นั่งใต้คานหรือเสา
  • มีต้นไม้เล็กๆ วางบนโต๊ะ
  • เก็บของให้เป็นระเบียบ

10. ทำสมาธิบำบัดด้วยเสียง

เสียงบำบัดกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี

  • เสียงชาม Singing Bowl
  • เสียงธรรมชาติ
  • ดนตรี 432 Hz
  • เสียงฝนตก คลื่นทะเล
  • เสียงสวดมนต์

สุดท้ายแล้ว การดูแลสุขภาพแบบสายมูไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพแบบแพทย์แผนปัจจุบัน และเลือกทำเฉพาะสิ่งที่รู้สึกสบายใจ ไม่สร้างความเครียดหรือความกดดันให้กับตัวเอง

Scroll to Top