สัตว์มงคลสุดปัง! 5 เทพเจ้าสี่ขาที่คนทั่วโลกบูชา

สัตว์มงคล สุดปัง! 5 เทพเจ้าสี่ขา คนทั่วโลกบูชา

ใครว่าสัตว์เลี้ยงมีไว้แค่เป็นเพื่อน? ที่จริงแล้ว หลายประเทศทั่วโลกเชื่อว่าสัตว์บางชนิดนำโชคลาภมาให้ด้วยนะ! มาดูกันว่า 5 สัตว์มงคลจากทั่วทุกมุมโลกมีอะไรบ้าง แล้วทำไมถึงได้รับการยกย่องขนาดนั้น

แมวดำ เจ้าเหมียวแห่งโชคลาภของชาวญี่ปุ่น

เริ่มกันที่ประเทศญี่ปุ่นกันก่อนเลย ที่นี่เขามีความเชื่อว่าแมวดำนำโชคมาให้นะ แปลกใช่ไหมล่ะ? ทั้งๆ ที่หลายประเทศมองว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย แต่ญี่ปุ่นกลับคิดตรงกันข้ามเลย

ตำนานเล่าว่า มีชายคนหนึ่งถูกฟ้าผ่าขณะยืนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่รอดชีวิตมาได้เพราะแมวดำกระโดดมาช่วยไว้ทัน ตั้งแต่นั้นมา ชาวญี่ปุ่นก็มองว่าแมวดำเป็นสัตว์นำโชค

ในญี่ปุ่น มีตุ๊กตาแมวที่ชื่อว่า “มาเนกิเนโกะ” หรือแมวกวักนั่นแหละ ที่เป็นที่นิยมมาก เชื่อกันว่าถ้าวางไว้หน้าร้าน จะช่วยเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุน ใครอยากรวยต้องลอง!

แต่ถ้าจะให้เฮงสุดๆ ต้องเป็นแมวดำสามสีนะ เรียกว่า “มิเกะ” ถือเป็นแมวหายากมาก ถ้าใครได้เลี้ยงถือว่าโชคดีสุดๆ เลยล่ะ

กระต่าย เจ้ากระโดดนำโชคของชาวตะวันตก

มาทางฝั่งตะวันตกกันบ้าง โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป กระต่ายถือเป็นสัตว์นำโชคที่ได้รับความนิยมมาก

ความเชื่อนี้มีที่มาจากสมัยโบราณ ที่ผู้คนสังเกตว่ากระต่ายมีลูกดกมาก และสามารถหนีศัตรูได้อย่างว่องไว เลยมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความปลอดภัย

ในอเมริกา มีความเชื่อว่าถ้าพูดว่า “กระต่าย กระต่าย” สามครั้งติดกันในวันแรกของเดือน จะนำโชคดีมาให้ตลอดทั้งเดือน ลองดูสิ อาจจะได้ผลจริงๆ ก็ได้!

ส่วนในอังกฤษ เขามี “เท้ากระต่าย” เป็นเครื่องรางนำโชค เชื่อกันว่าถ้าพกติดตัวไว้ จะช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและนำโชคลาภมาให้ แต่ทุกวันนี้เขาใช้ของปลอมกันนะ ไม่ต้องห่วง ไม่มีกระต่ายถูกทำร้ายหรอก

มังกร สัตว์ในตำนานแห่งความรุ่งเรืองของจีน

พูดถึงสัตว์มงคล ไม่พูดถึงมังกรได้ไง? ในประเทศจีน มังกรถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความรุ่งเรือง และโชคลาภ

แม้ว่ามังกรจะเป็นสัตว์ในจินตนาการ แต่ชาวจีนเชื่อว่ามันมีอยู่จริง และมีพลังมหาศาล สามารถควบคุมน้ำและฝนได้ ไม่แปลกเลยที่ชาวนาจีนมักบูชามังกรเพื่อขอฝนในหน้าแล้ง

ในงานเทศกาลต่างๆ ของจีน เราจะเห็นการเชิดมังกรอยู่เสมอ เชื่อกันว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำโชคดีมาให้ ใครได้เห็นการเชิดมังกรแล้วล่ะก็ ถือว่าโชคดีสุดๆ เลยนะ

ทุกวันนี้ คนจีนนิยมใช้สัญลักษณ์มังกรในการตกแต่งบ้านหรือสำนักงาน บางคนถึงขั้นสักรูปมังกรไว้บนร่างกายเลยทีเดียว เรียกว่าเอาให้สุดไปเลย!

ช้าง ยักษ์ใหญ่แห่งความมั่งคั่งของอินเดีย

มาทางแถบเอเชียใต้กันบ้าง ในประเทศอินเดีย ช้างถือเป็นสัตว์มงคลที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช้างเผือก ที่ถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด

ในศาสนาฮินดู มีเทพเจ้าที่มีเศียรเป็นช้างชื่อว่า “พระพิฆเนศ” ซึ่งเป็นเทพแห่งการขจัดอุปสรรคและนำความสำเร็จมาให้ ไม่แปลกเลยที่ชาวอินเดียจะนับถือช้างกันมาก

ชาวอินเดียเชื่อว่า การมีรูปปั้นช้างไว้ในบ้านจะช่วยนำความมั่งคั่งและความสุขมาให้ แต่ต้องระวังนะ ห้ามหันหัวช้างเข้าหาประตูเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคลาภไหลออกจากบ้านไปหมด!

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าถ้าได้เห็นช้างตอนเช้า จะเป็นวันที่โชคดีตลอดทั้งวัน แต่ถ้าอยู่ในเมืองคงไม่ค่อยได้เจอช้างเดินผ่านหน้าบ้านหรอกนะ ฮ่าๆ

จิ้งจอก ผู้ส่งสารแห่งโชคลาภของญี่ปุ่น

กลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง คราวนี้เป็นจิ้งจอกบ้าง ในญี่ปุ่น จิ้งจอกหรือ “คิสึเนะ” ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเกษตร

ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น จิ้งจอกมีพลังวิเศษ สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และมักจะช่วยเหลือผู้คนที่มีจิตใจดี แต่ก็อาจจะแกล้งคนที่ไม่ดีเหมือนกันนะ ระวังไว้!

ในศาลเจ้าอินาริทั่วญี่ปุ่น เราจะเห็นรูปปั้นจิ้งจอกตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก บางตัวคาบลูกกุญแจ บางตัวคาบม้วนกระดาษ เชื่อกันว่าถ้าได้ไหว้จิ้งจอกเหล่านี้ จะช่วยนำโชคลาภและความสำเร็จมาให้

ทุกวันนี้ มีคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่นิยมพกพาเครื่องรางรูปจิ้งจอกติดตัว หรือแม้แต่ตั้งรูปปั้นจิ้งจอกไว้ในบ้านหรือที่ทำงาน เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิต

สรุป สัตว์มงคล ความเชื่อที่แตกต่างแต่มีจุดร่วม

จากที่เราได้เห็นกันมา แม้ว่าแต่ละประเทศจะมีความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์มงคลที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จ หรือความปลอดภัย

แต่ก็อย่าลืมนะว่า ไม่ว่าจะเชื่อเรื่องสัตว์มงคลหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงมือทำ ถึงจะมีแมวดำ กระต่าย มังกร ช้าง หรือจิ้งจอกอยู่ข้างๆ แต่ถ้าเราไม่ขยันทำมาหากิน ก็คงไม่รวยหรอก

สุดท้ายนี้ ลองหาสัตว์มงคลที่ถูกโฉลกกับตัวเองดูสิ อาจจะช่วยเสริมกำลังใจให้เราสู้ชีวิตได้มากขึ้นก็ได้นะ แต่อย่าลืมว่า พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ในตัวเราเองนะจ๊ะ!

Scroll to Top