เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมบางคนถึงชอบถามกรุ๊ปเลือดกันนักกันหนา? บางทีอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องการให้เลือดเท่านั้นนะ แต่เป็นเพราะพวกเขากำลังจะ “จับโป๊ะ” นิสัยของคุณอยู่ก็ได้!
เอาล่ะ มาดูกันว่า “ศาสตร์แห่งกรุ๊ปเลือด” นี่มันคืออะไร และทำไมถึงฮิตติดลมบนจนกลายเป็นเรื่อง Talk of the Town ไปแล้ว
กรุ๊ปเลือด คือ ดวงดาวบนร่างกายเรา?
ถ้าใครเคยอินกับการดูดวงจากวันเกิด ราศี หรือสไตล์ MBTI มาแล้ว ลองมาอินกับการดูดวงจากกรุ๊ปเลือดกันบ้างดีกว่า! เพราะนี่อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้มากขึ้น
แต่ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าทฤษฎีนี้ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ 100% นะจ๊ะ แต่ก็เป็นความเชื่อที่ฮิตมากในหลายประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลี และไทยเรานี่แหละ
เปิดตำนานกรุ๊ปเลือด จากญี่ปุ่นสู่ทั่วโลก
ย้อนกลับไปในปี 1927 นักวิจัยชาวญี่ปุ่นชื่อ Takeji Furukawa ได้เสนอทฤษฎีที่ว่ากรุ๊ปเลือดมีความสัมพันธ์กับบุคลิกภาพของคน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น จนกลายเป็นกระแสที่แพร่หลายไปทั่วเอเชีย
ลองมาดูกันว่าแต่ละกรุ๊ปเลือดมีลักษณะเด่นอะไรกันบ้าง
กรุ๊ป A เป๊ะปังทุกดีเทล!
คนกรุ๊ป A นี่แหละที่เขาเรียกว่า “Perfectionist” ตัวจริง! พวกเขามักจะเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย และชอบวางแผนทุกอย่างล่วงหน้า
- ข้อดี: มีความรับผิดชอบสูง ทำงานเป็นระบบ
- ข้อเสีย: อาจจะเครียดง่าย และดูเหมือนคนจู้จี้จุกจิกในสายตาคนอื่น
คนกรุ๊ปนี้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เช่น นักบัญชี ผู้ตรวจสอบคุณภาพ หรือนักออกแบบกราฟิก
กรุ๊ป B ปาร์ตี้พีเพิลตัวพ่อ!
ถ้าอยากหาเพื่อนไปปาร์ตี้ด้วย ต้องหากรุ๊ป B นี่แหละ! พวกเขามักจะเป็นคนสนุกสนาน เข้ากับคนง่าย และมีความเป็นผู้นำสูง
- ข้อดี: มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวเก่ง
- ข้อเสีย: อาจจะดูเหมือนคนไม่จริงจัง และเปลี่ยนใจง่าย
เป็นคนที่เหมาะกับงานที่ต้องพบปะผู้คน เช่น นักการตลาด พิธีกร หรือนักประชาสัมพันธ์
กรุ๊ป O ฮีโร่ประจำออฟฟิศ!
คนกรุ๊ป O นี่แหละที่มักจะเป็น “คนดังประจำออฟฟิศ” เพราะพวกเขามักจะมีความมั่นใจสูง กล้าแสดงออก และมีความเป็นผู้นำตามธรรมชาติ
- ข้อดี: มีความทะเยอทะยาน มุ่งมั่น
- ข้อเสีย: อาจจะดูเหมือนคนเอาแต่ใจตัวเอง และใจร้อนไปบ้าง
คนกรุ๊ปนี้มักจะเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความเป็นผู้นำ เช่น ผู้จัดการ ผู้ประกอบการ หรือนักการเมือง
กรุ๊ป AB สวิตช์ออนความอาร์ต!
คนกรุ๊ป AB นี่แหละที่เรียกว่า “เด็กอาร์ต” ตัวจริง! พวกเขามักจะมีความคิดสร้างสรรค์สูง มีเหตุผล แต่ก็มีอารมณ์ศิลปินอยู่ในตัว
- ข้อดี: มีความคิดที่เป็นเอกลักษณ์ เข้าใจคนง่าย
- ข้อเสีย: อาจจะดูเหมือนคนเพ้อฝัน และตัดสินใจยาก
พวกเขาจะเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น นักเขียน ศิลปิน หรือนักออกแบบ
แล้วไงต่อ? จะเชื่อหรือไม่เชื่อดี?
เอาเป็นว่า ทฤษฎีนี้ก็เหมือนกับการดูดวงทั่วไปแหละ มันอาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่ก็สามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำความเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้
ลองคิดดูสิ ถ้าเรารู้ว่าเพื่อนร่วมงานเรากรุ๊ป A อาจจะช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงชอบจู้จี้กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หรือถ้ารู้ว่าแฟนเรากรุ๊ป B ก็อาจจะช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงชอบออกไปเที่ยวบ่อยๆ
ถ้าใครกำลังสงสัยว่าควรจะเชื่อเรื่องนี้ดีไหม ก็ขอบอกว่า… แล้วแต่คุณเลย! บางคนอาจจะมองว่านี่เป็นเรื่องสนุกๆ ไว้คุยกับเพื่อน บางคนอาจจะใช้มันเป็นเครื่องมือในการทำความเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น
แต่อย่าให้มันมาจำกัดตัวเองหรือตีกรอบคนอื่นจนเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนเราก็มีหลายมิติมากกว่าแค่กรุ๊ปเลือดอย่างเดียว
เทคนิคเด็ด! ใช้ศาสตร์กรุ๊ปเลือดให้ปัง
ถ้าอยากลองเล่นกับศาสตร์นี้ดูบ้าง ลองทำแบบนี้ดู
- สังเกตตัวเอง: ลองดูว่าลักษณะของกรุ๊ปเลือดตัวเองตรงกับเราแค่ไหน
- เปิดใจกว้าง: อย่าด่วนตัดสินคนอื่นแค่เพราะกรุ๊ปเลือด
- ใช้เป็นจุดเริ่มต้น: ใช้มันเป็นหัวข้อสนทนาเพื่อทำความรู้จักคนอื่นมากขึ้น
- มองหาข้อดี: แทนที่จะมองแต่ข้อเสีย ลองมองหาข้อดีของแต่ละกรุ๊ปดู
- เรียนรู้ตลอดเวลา: ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ลองเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไว้เสมอ
สรุปแล้ว ศาสตร์กรุ๊ปเลือดคืออะไรกันแน่?
ศาสตร์กรุ๊ปเลือดก็เหมือนกับเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ 100% แต่ก็เป็นเรื่องสนุกๆ ที่ช่วยให้เราได้สำรวจตัวเองและเปิดใจรับฟังคนอื่นมากขึ้น
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการเป็นคนดี มีน้ำใจ และเคารพความแตกต่างของแต่ละคน ไม่ว่าเขาจะมีกรุ๊ปเลือดอะไรก็ตาม!