ชื่อผู้แต่ง : kampaicontent

การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องการทั้งความรู้ ความสามารถ และโชคลาภ หลายคนหันมาพึ่งพาการมูเตลูหรือการบูชาเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมดวงให้ธุรกิจของตนประสบความสำเร็จมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาวิธีมูที่นำไปใช้ได้จริง บทความนี้จะพาไปเจาะลึกวิธีการมูเตลูเฉพาะเจาะจง ที่ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามได้จริง เพื่อเสริมความมั่นใจและดึงดูดโชคลาภเข้าสู่ธุรกิจของคุณ 1. บูชาไฉ่ซิงเอี๊ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) หลังจากบูชาเสร็จ ควรตั้งจิตอธิษฐานเกี่ยวกับความต้องการในเรื่องการเงินและธุรกิจ จากนั้นเก็บผลไม้ที่ถวายไว้เพื่อรับโชคลาภในวันนั้น 2. เสริมดวงด้วยฮวงจุ้ยในที่ทำงาน การจัดฮวงจุ้ยในที่ทำงานเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเสริมพลังบวกและทำให้บรรยากาศในการทำงานดีขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการเงินให้กับธุรกิจด้วย 3. บูชาเทพเจ้ากวนอูเพื่อความยุติธรรม การบูชาเทพเจ้ากวนอูจะช่วยให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจด้านธุรกิจ และยังช่วยเสริมพลังความกล้าหาญในการเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคทางธุรกิจได้ 4. ท่องคาถาเรียกทรัพย์เป็นประจำ “โอม นะโมพุทธายะ สัพเพเทวานัง มหาลาภัง ประสิทธิเม” ควรท่องคาถานี้เป็นประจำทุกเช้าหลังจากทำบุญ หรือก่อนเริ่มทำงาน โดยเฉพาะเมื่อมีการเจรจาธุรกิจสำคัญหรือการเสี่ยงดวงใด ๆ คาถานี้เชื่อว่าจะช่วยดึงดูดเงินทองและโชคลาภให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง 5. บูชาเจ้าพ่อเสือเพื่อความกล้าหาญ เชื่อว่าการบูชาเจ้าพ่อเสือจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีพลังในการเผชิญกับปัญหาและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก 6. วางปี่เซียะในที่ทำงานเพื่อดึงดูดทรัพย์ ปี่เซียะไม่เพียงแต่เป็นเครื่องรางที่สวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่เสริมดวงในเรื่องของการเงินและการค้าขายอย่างดี 7. บูชาพระพิฆเนศเสริมดวงเริ่มต้นธุรกิจ พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้และการแก้ปัญหา ผู้ประกอบการมักบูชาพระพิฆเนศเพื่อเสริมดวงให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว 8. ทำบุญบริจาคเพื่อเสริมดวงการเงิน การทำบุญบริจาคช่วยเสริมดวงในเรื่องการเงินและโชคลาภ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างพลังบวกให้กับผู้ประกอบการเอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว สรุป การมูเตลูเพื่อเสริมดวงในธุรกิจไม่ใช่เรื่องที่ยากและสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ง่าย […]

ความรักเป็นเรื่องที่หลายคนปรารถนาและคาดหวัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอความรักที่สมหวังอย่างง่าย ๆ นี่จึงเป็นที่มาของสายมูเตลูในด้านความรัก ที่เชื่อกันว่าการบูชาเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเสริมดวงด้านความรักได้ สำหรับคนที่ยังโสด หรือแม้แต่คนที่มีคู่แล้ว แต่อยากให้ความรักราบรื่นและมีความสุขยิ่งขึ้น การมูเพื่อความรักเป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาด! มาดูวิธีมูที่นำไปใช้ได้จริงกัน 1. บูชาพระแม่ลักษมี เทพเจ้าแห่งความรักและความสมบูรณ์ พระแม่ลักษมี เป็นเทพเจ้าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความงดงาม และความมั่งคั่ง การบูชาพระแม่ลักษมีเชื่อว่าจะเสริมดวงในด้านความรัก ช่วยให้ความรักที่สมหวัง และชีวิตคู่มีความสุข นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องความรักที่บริสุทธิ์และความซื่อสัตย์ 2. เสริมดวงด้วยการพกเครื่องรางด้านความรัก เครื่องรางเป็นอีกหนึ่งวิธีมูที่คนในยุคนี้นิยมกันมาก โดยเฉพาะการพกเครื่องรางที่ช่วยเสริมดวงด้านความรัก เช่น หินโรสควอตซ์ ที่เชื่อว่ามีพลังในการเสริมความรักและดึงดูดคนที่ดีเข้ามาในชีวิต หินโรสควอตซ์ยังเป็นตัวแทนของความรักที่บริสุทธิ์และความสัมพันธ์ที่มั่นคง นอกจากโรสควอตซ์แล้ว ยังมีเครื่องรางอื่น ๆ ที่นิยมใช้ในการเสริมดวงความรัก เช่น ปี่เซียะสีชมพู หรือ ยันต์พญานาคเกี้ยว ที่เชื่อว่าจะดึงดูดคนรักให้เข้ามาในชีวิต 3. ท่องคาถาเสริมดวงความรัก สำหรับสายมูที่ชอบการสวดมนต์และท่องคาถา การท่องคาถาเสริมความรักเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลดี เชื่อกันว่าคาถาเหล่านี้จะช่วยเสริมเสน่ห์และดึงดูดคนรักเข้ามาในชีวิต คาถามหาเสน่ห์“โอม นะโมพุทธายะ มะอะอุ มะหาลาโภ สัมปะติจฉามิ” ควรท่องคาถานี้ในช่วงเวลาเช้าหรือก่อนนอน โดยท่องวันละ 9 จบ จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คนที่พบเห็นประทับใจ และเสริมดวงในด้านความรักให้มั่นคง 4.

การเดินทางไปยังสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นิยมสำหรับสายมูที่เชื่อในพลังแห่งโชคลาภและการเปลี่ยนแปลงในชีวิต สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลกมีหลากหลายแห่งที่ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปกราบไหว้บูชาเพื่อขอพรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง สุขภาพ ความรัก หรือความสำเร็จ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสถานที่มงคลที่สายมูทั่วโลกต่างพากันไปเสริมดวง มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่คุณควรลองไปสักครั้งในชีวิต 1. วัดไดโกจิ (Daigo-ji Temple) – ญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยการพาไปรู้จักวัดไดโกจิในกรุงเกียวโต วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรให้ชีวิตราบรื่น เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ความพิเศษของวัดนี้อยู่ที่ศาลเจ้าพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเชื่อว่าหากได้กราบไหว้และขอพรแล้ว จะช่วยให้ชีวิตผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหาไปได้อย่างง่ายดาย วัดไดโกจิยังมีบรรยากาศสงบงาม ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาลหรือสวนญี่ปุ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การมาเยือนวัดนี้ไม่เพียงแต่เพื่อเสริมดวง ยังได้สัมผัสกับความสงบและความสวยงามของธรรมชาติไปพร้อมกัน 2. วัดหลงซาน (Longshan Temple) – ไต้หวัน วัดหลงซานเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือชาวไต้หวันเองก็นิยมมาขอพรในเรื่องการงาน สุขภาพ และความรัก ความเชื่อเรื่องศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้ทำให้คนที่มาเยือนหวังจะได้รับพลังแห่งความมงคลกลับไป ที่นี่มีการบูชาทั้งเทพเจ้าแห่งการศึกษาและความรู้ รวมถึงเทพเจ้าแห่งความรัก ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ที่มาไหว้ขอพรจะได้รับพรในด้านต่าง ๆ ที่ขอไว้ให้สมปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องการงานและความสำเร็จ 3. วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (Sri Mariamman Temple) – สิงคโปร์ หากใครที่มองหาสถานที่สายมูที่ให้พรเรื่องความรัก ต้องไม่พลาดวัดพระศรีมหาอุมาเทวีในสิงคโปร์ วัดนี้เป็นวัดฮินดูที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องการขอพรด้านความรักและความสำเร็จในชีวิตคู่ ผู้คนที่มาที่วัดนี้มักจะมาเพื่อขอพรให้สมหวังในเรื่องความรักและครอบครัว เชื่อว่าการบูชาพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีจะช่วยเสริมดวงความรักให้แข็งแกร่ง นอกจากนี้

ช่วงนี้หลายคนคงรู้สึกว่าชีวิตติดขัด อยากหาอะไรมาเสริมดวงชะตาสักหน่อย วันนี้เลยนำพิธีเด็ดๆ มาฝาก รับรองว่าทำแล้วชีวิตจะดีขึ้นแบบเห็นผลชัดเจน 1. พิธีบูชาพญานาค มหาลาภ มหาเศรษฐี พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิธีนี้จะจัดขึ้นในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับช่วงออกพรรษาพอดี อุปกรณ์พิธีมงคล การประกอบพิธี พิธีกรรมเริ่มต้นในช่วงพลบค่ำ ด้วยการจัดวางรูปปั้นพญานาคบนแท่นพิธี คลุมด้วยผ้าแพร 5 สี จากนั้นพระอาจารย์จะทำการปลุกเสกด้วยคาถาโบราณ พร้อมกับวงสายสิญจน์รอบบริเวณพิธี ผู้ร่วมพิธีต้องนั่งสมาธิและท่องบทสวดพิเศษตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที พร้อมกับถวายน้ำนมและขนมหวานแด่พญานาค เชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภและความร่ำรวย 2. พิธีสักการะพระภูมิเจ้าที่ มหามงคล พิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเจริญรุ่งเรือง มั่นคงในหน้าที่การงาน และที่อยู่อาศัย นิยมจัดในวันพฤหัสบดี ช่วงเช้าตรู่ อุปกรณ์สำคัญ ขั้นตอนพิธีกรรม พิธีเริ่มต้นตั้งแต่ฟ้าสาง พระอาจารย์จะทำการปลุกเสกศาลพระภูมิด้วยคาถาพิเศษ มีการประพรมน้ำมนต์และโปรยข้าวตอกดอกไม้ จากนั้นจะมีการผูกผ้าแพรและธงมงคล พิธีนี้มีความพิเศษตรงที่มีการฝังของมงคลใต้ศาลพระภูมิ และมีการอัญเชิญดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาสถิต เพื่อปกปักรักษาบ้านและผู้อยู่อาศัย 3. พิธีบูชาพระแม่อุมาเทวี เสริมเสน่ห์เมตตา พิธีกรรมอันทรงพลังที่มีต้นกำเนิดจากคัมภีร์โบราณของอินเดีย นิยมทำในวันศุกร์ขึ้น

ยุคนี้หลายคนหันมาบูชาเจ้าแม่กวนอิมกันมากขึ้น ด้วยความศรัทธาในพระเมตตาของพระองค์ที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย บทความนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีบูชาเจ้าแม่กวนอิมอย่างถูกต้อง เพื่อให้การขอพรเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ประวัติเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กวนอิมมีพระนามเดิมว่า “เมี่ยวซาน” เป็นธิดาของกษัตริย์แห่งแคว้นเมี่ยวจง ประเทศจีน พระองค์มีพระทัยมุ่งมั่นในพุทธศาสนาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงปฏิเสธการอภิเษกสมรส และออกบวชเป็นภิกษุณี ด้วยความเมตตากรุณาที่มีต่อสรรพสัตว์ และการบำเพ็ญเพียรอย่างไม่ย่อท้อ พระองค์จึงได้บรรลุธรรมและกลายเป็นพระโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งสละการเข้านิพพานเพื่อโปรดสัตว์โลก อานิสงส์ของการบูชาเจ้าแม่กวนอิม การบูชาเจ้าแม่กวนอิมด้วยจิตอันบริสุทธิ์จะก่อให้เกิดผลดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความสงบสุขในจิตใจ การงานก้าวหน้า สุขภาพแข็งแรง และโชคลาภต่างๆ ผู้ที่บูชาอย่างสม่ำเสมอมักจะพบกับความสำเร็จในชีวิต การเตรียมโต๊ะบูชาเจ้าแม่กวนอิม การจัดวางองค์เจ้าแม่ องค์เจ้าแม่ควรหันพระพักตร์ออกจากผนัง และวางบนฐานหรือแท่นที่มั่นคง สูงจากพื้นพอสมควร บริเวณรอบๆ ควรโล่ง สะอาด และมีอากาศถ่ายเทสะดวก เครื่องบูชาประจำโต๊ะ วิธีการบูชาเจ้าแม่กวนอิมในแต่ละวัน การบูชาช่วงเช้า เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการจุดธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ถวายน้ำสะอาด 1 แก้ว พร้อมกล่าวบทสวดมนต์บูชาเจ้าแม่กวนอิม “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” 3 จบ ตามด้วยบทสวด “โอม มณี

ยุคนี้หลายคนกำลังมองหาวิธีเสริมดวงการเงิน และหนึ่งในเทพเจ้าที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดคือเจ้าแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ประวัติเจ้าแม่ลักษมี เจ้าแม่ลักษมีเป็นชายาของพระนารายณ์ มีกำเนิดจากการกวนเกษียรสมุทร มหาสมุทรแห่งน้ำนม พระนางประทับบนดอกบัวสีชมพู มีช้างสองเชือกยืนข้างพระวรกาย หลั่งน้ำมงคลจากงวงของพวกมัน สัญลักษณ์นี้แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง พลังพิเศษของเจ้าแม่ เจ้าแม่ลักษมีทรงมีพลังในการประทานพรด้านต่างๆ ด้านการเงิน พระนางจะประทานความมั่งคั่ง โชคลาภ และความร่ำรวย ผู้บูชาจะพบกับโอกาสทางการเงินที่ดี ด้านการงาน พระนางช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ การค้าขายจะรุ่งเรือง ธุรกิจประสบความสำเร็จ ด้านความสุข พระนางจะประทานความสงบสุข ความอุดมสมบูรณ์ และความสบายใจให้แก่ผู้บูชา วิธีการบูชาเจ้าแม่ลักษมี การจัดโต๊ะบูชา จัดวางองค์เจ้าแม่บนผ้าสีแดงหรือสีทอง วางดอกบัวสีชมพูหรือดอกกุหลาบสีชมพู ธูปหอม เทียนสีเหลือง และเหรียญทอง เครื่องบูชาพิเศษ บทสวดบูชาเจ้าแม่ลักษมี มนต์บูชาประจำวัน เริ่มต้นด้วยบทสวด “โอม ศรี มหาลักษมี นะมะฮา” 108 จบทุกวัน ควรสวดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ซึ่งเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ บทสวดพิเศษวันศุกร์ วันศุกร์ถือเป็นวันพิเศษของเจ้าแม่ ให้สวด “โอม ศรีย์ หริง ศรีย์ กมลา วาสินี ศรีย์

ในยุคที่หลายคนกำลังค้นหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ การบูชาพระตรีมูรติกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความที่ทรงเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมทั้งการสร้าง การรักษา และการทำลายล้าง ความสำคัญของพระตรีมูรติ พระตรีมูรติประกอบด้วยเทพเจ้า 3 พระองค์ ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แสดงถึงวัฏจักรของจักรวาล ได้แก่ พระพรหม ทรงเป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่ง มี 4 พักตร์ มองได้ทุกทิศทาง ประทับบนดอกบัวบาน ทรงถือคัมภีร์พระเวท ลูกประคำ และหม้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พระนารายณ์ ทรงเป็นผู้ปกป้องรักษาโลกและสรรพชีวิต มีสีกายเป็นสีน้ำเงินเข้ม ทรงถือจักร สังข์ คทา และดอกบัว ประทับบนพญานาคเศษะ พระศิวะ ทรงเป็นผู้ทำลายล้างสิ่งชั่วร้าย มีสีกายขาวบริสุทธิ์ ทรงถือตรีศูล ดัมรุ (กลองมือ) และประคำรุทรักษะ มีงูพันรอบพระศอ การจัดเครื่องบูชาพระตรีมูรติ เครื่องบูชาพระพรหม เครื่องบูชาพระนารายณ์ เครื่องบูชาพระศิวะ บทสวดมนต์บูชาพระตรีมูรติ บทสวดถวายพระพรหม “โอม สัตยัม ชนานาม พรัหมเทวายะ นะมะฮา” สวด 108 จบในตอนเช้าตรู่ พร้อมถวายดอกบัวขาว จะช่วยเสริมด้านการงาน

หลายคนคงคุ้นตากับรูปปั้นเทพเจ้าที่มีเศียรเป็นช้าง พระวรกายอวบอ้วน ประทับนั่งในท่าสบายๆ พร้อมงวงที่ม้วนไปทางซ้าย นั่นคือพระพิฆเนศ เทพเจ้าผู้เป็นที่รักและศรัทธาของผู้คนทั่วโลก ประวัติความเป็นมา พระพิฆเนศทรงเป็นพระโอรสของพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี มีตำนานเล่าว่า วันหนึ่งพระแม่อุมาทรงสร้างพระพิฆเนศจากผงจันทน์ที่ชโลมพระวรกาย เพื่อให้เป็นผู้พิทักษ์ขณะที่พระนางสรงน้ำ เมื่อพระศิวะเสด็จมาและถูกพระพิฆเนศขัดขวางไม่ให้เข้าพบพระแม่อุมา พระศิวะทรงกริ้วจึงตัดพระเศียรของพระพิฆเนศขาด เมื่อพระแม่อุมาทรงทราบก็โศกเศร้าเสียพระทัยมาก พระศิวะจึงรับสั่งให้ผู้ติดตามนำเศียรของสัตว์ตัวแรกที่หันหน้าไปทางทิศเหนือมาต่อให้พระพิฆเนศ ปรากฏว่าเป็นช้างเผือก พระพิฆเนศจึงมีเศียรเป็นช้างนับแต่นั้น ความพิเศษของพระพิฆเนศ พระลักษณะที่น่าสนใจ พระพิฆเนศทรงมีพระเศียรเป็นช้าง แสดงถึงปัญญาและความจำอันเป็นเลิศ งวงที่ม้วนไปทางซ้ายบ่งบอกถึงความสำเร็จในทางโลก พระกายอ้วนท้วนสมบูรณ์แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ พระพาหนะและสัญลักษณ์ ทรงใช้หนูเป็นพาหนะ ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคทั้งใหญ่และเล็ก ในพระหัตถ์ทั้งสี่ถือ งาช้าง บ่วงบาศ ขนมโมทกะ และพระขรรค์ พระนามและฉายา พุทธคุณและอานุภาพ ด้านการศึกษา พระพิฆเนศทรงเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการ ผู้ที่บูชาจะมีสติปัญญาเฉียบแหลม เรียนเก่ง มีความคิดสร้างสรรค์ และประสบความสำเร็จในการศึกษา ด้านการงาน ทรงประทานความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ การเขียน การแสดง และงานสร้างสรรค์ต่างๆ ด้านการค้า ผู้ค้าขายที่บูชาพระองค์จะพบกับความรุ่งเรือง กิจการเจริญก้าวหน้า มีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย การบูชาพระพิฆเนศ เครื่องสักการะ วิธีการบูชา การบูชาควรเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดร่างกาย สวมชุดสุภาพ จัดเตรียมเครื่องสักการะให้พร้อม

ในยุคที่ผู้คนกำลังแสวงหาที่พึ่งทางใจ พระแม่อุมาทรงเป็นเทพีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยพระเมตตาที่มีต่อบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ความสำคัญของพระแม่อุมา พระแม่อุมาทรงเป็นอัครมเหสีของพระศิวะ พระนางทรงมีพระนามว่า “ปารวตี” แปลว่าธิดาแห่งขุนเขา เนื่องจากทรงอวตารลงมาเป็นธิดาของพระหิมวัต เจ้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย พระนางทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังและความรักอันบริสุทธิ์ การจัดโต๊ะบูชา องค์ประกอบหลัก ตำแหน่งการจัดวาง โต๊ะบูชาควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ วางในพื้นที่สะอาด สงบ และมีอากาศถ่ายเทสะดวก พื้นที่โดยรอบควรโล่ง ไม่มีสิ่งรกรุงรัง เครื่องบูชาประจำวัน พิธีกรรมการบูชา การเตรียมตัว ก่อนทำพิธีบูชา ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด แต่งกายด้วยชุดขาวหรือชุดสุภาพ จิตใจสงบ มีความตั้งใจบริสุทธิ์ การกราบไหว้ ควรกราบ 3 ครั้ง พร้อมกล่าวคำบูชา “โอม อุมา เทวี นะมะฮา” แล้วจึงจุดธูปเทียนบูชา บทสวดมนต์พิเศษ บทสวดประจำวัน “โอม ชัย อุมา เทวี” สวด 108 จบในช่วงเช้า จะช่วยเสริมพลังและความมั่นใจตลอดทั้งวัน บทสวดขอพรพิเศษ “โอม ศรี อุมา ปารวตี เทวี นะมะฮา”

พระกฤษณะ เทพเจ้าผู้มีผิวกายสีน้ำเงินเข้ม ทรงขลุ่ย และมีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ ด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจและคำสอนที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ประวัติความเป็นมา พระกฤษณะทรงอุบัติในราชวงศ์ยาทพ เป็นพระโอรสของท้าววาสุเทพและพระนางเทวกี ในคืนประสูติ ท้าววาสุเทพได้นำพระกุมารน้อยหนีออกจากเมือง เพื่อหลบหนีการตามล่าของกังสะผู้อธรรม ซึ่งได้รับคำทำนายว่าจะถูกหลานชายปลงพระชนม์ พระกฤษณะทรงเติบโตในหมู่บ้านของคนเลี้ยงวัว ภายใต้การดูแลของนางยโศธราและท้านนันทะ ทรงใช้วัยเยาว์อย่างมีความสุข ท่ามกลางเพื่อนๆ โคบาล และโคนม พระลักษณะพิเศษ รูปลักษณ์ภายนอก พระกฤษณะมีพระวรกายสีน้ำเงินเข้มดั่งเมฆฝน ทรงสวมชุดสีเหลือง ประดับด้วยมาลัยดอกไม้ป่า มักทรงถือขลุ่ยประจำพระองค์ มงกุฎประดับนกยูง และมีรอยยิ้มที่เปี่ยมเสน่ห์ พระอาวุธและเครื่องประดับ พระสหาย อรชุน เป็นพระสหายที่ใกล้ชิดที่สุด ซึ่งพระกฤษณะทรงเป็นสารถีให้ในสงครามมหาภารตะ และได้ตรัสคำสอนอันลึกซึ้งที่รู้จักกันในนามภควัทคีตา ตำนานและเรื่องราวที่น่าสนใจ การปราบอสูรกาลิยะ ในวัยเด็ก พระกฤษณะทรงปราบพญานาคกาลิยะที่แผ่พิษร้ายในแม่น้ำยมุนา ด้วยการเต้นรำบนหัวพญานาค จนพญานาคยอมสยบและสัญญาว่าจะไม่รังควานผู้คนอีก การยกเขาโควรรธนะ เมื่อชาวบ้านกำลังจะจัดพิธีบูชาพระอินทร์ พระกฤษณะทรงแนะนำให้บูชาเขาโควรรธนะแทน ทำให้พระอินทร์กริ้วและบันดาลให้ฝนตกหนัก พระกฤษณะจึงทรงยกภูเขาขึ้นเป็นร่มให้ชาวบ้าน ราสลีลากับโคปี เรื่องราวความรักระหว่างพระกฤษณะกับเหล่าโคปี โดยเฉพาะนางราธา แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างจิตวิญญาณกับพระผู้เป็นเจ้า คำสอนสำคัญจากภควัทคีตา เรื่องกรรม “ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยไม่ยึดติดกับผล” คำสอนนี้สอนให้ทำงานด้วยความตั้งใจ แต่ไม่ควรกังวลกับผลลัพธ์มากเกินไป เรื่องจิตใจ