7 ข้อห้ามสุดขลัง! สายมูต้องรู้ ถ้าอยากโชคดีตลอดชีวิต

7 ข้อห้ามสุดขลัง! สายมูต้องรู้ ถ้าอยากโชคดีตลอดชีวิต

ชีวิตนี้มันไม่ง่ายอยู่แล้ว แถมบางทีก็รู้สึกว่าโชคชะตาไม่เข้าข้างซะเลย เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนดูโชคดีตลอด ส่วนเราซวยแบบไม่มีที่มาที่ไป? บางทีอาจจะเป็นเพราะเราทำอะไรบางอย่างที่ไปขัดกับกฎแห่งจักรวาลโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ

ถ้าเป็นสายมูตัวยง หรือแค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเรียกโชค บทความนี้มีคำตอบให้! เราจะมาดูกัน 7 ข้อห้ามสุดขลังที่สายมูต้องรู้ ถ้าอยากโชคดีตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ลองทำตามดูสักครั้ง รับรองว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!

1. อย่าเพิ่งดีใจ! ห้ามเฉลิมฉลองก่อนประสบความสำเร็จ

ใครเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “อย่าโม้ก่อนมีดอก” บ้าง? นี่แหละคือหลักการเดียวกัน! การเฉลิมฉลองหรือโพสต์อวดในโซเชียลก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ อาจจะทำให้โชคดีที่กำลังจะมาหยุดชะงักได้

ลองนึกภาพดูว่าเรากำลังจะได้งานใหม่ที่ใฝ่ฝันมานาน แต่ดันไปโพสต์เฟซบุ๊กบอกเพื่อนๆ ก่อนที่จะเซ็นสัญญา ผลคือบริษัทเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย… เจ็บปวดแค่ไหน!

แทนที่จะรีบดีใจ ลองเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจก่อน แล้วค่อยๆ ทำให้มันสำเร็จทีละขั้น พอทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ค่อยจัดปาร์ตี้ใหญ่ฉลองกันให้สุดเหวี่ยง! แบบนี้ความสำเร็จจะอยู่กับเราไปนานๆ

2. ระวังให้ดี! ห้ามเดินลอดราวตากผ้าเด็ดขาด

หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้งมงาย แต่ในความเชื่อของคนไทยและหลายชาติในเอเชีย การเดินลอดราวตากผ้าถือเป็นเรื่องอัปมงคลสุดๆ

เหตุผลก็คือ ราวตากผ้าเปรียบเสมือนเส้นแบ่งระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ การเดินลอดใต้ราวตากผ้าเท่ากับเราก้าวข้ามเส้นนั้น ทำให้วิญญาณร้ายสามารถติดตามเรามาได้

นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าการเดินลอดราวตากผ้าจะทำให้เราเตี้ยลง โชคร้ายติดตัว หรือแม้แต่อายุสั้น! ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ?

แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าบังเอิญเดินลอดไปแล้ว แค่เดินย้อนกลับไปทางเดิม พร้อมกับพูดขอโทษ ก็จะช่วยแก้เคล็ดได้ ง่ายจะตาย!

3. อย่าชี้นิ้ว! โดยเฉพาะตอนเห็นรุ้งกินน้ำ

เคยเห็นรุ้งกินน้ำแล้วอดใจไม่ไหว อยากชี้ให้เพื่อนดูบ้างไหม? ระวังไว้นะ! ในหลายวัฒนธรรม การชี้นิ้วไปที่รุ้งกินน้ำถือเป็นการไม่ให้เกียรติเทพเจ้า และอาจนำโชคร้ายมาสู่ตัวเอง

ความเชื่อนี้มีที่มาจากหลายประเทศ เช่น ในฟิลิปปินส์เชื่อว่าถ้าชี้นิ้วใส่รุ้ง นิ้วจะเน่าและหลุดออกมา ส่วนในเวียดนามเชื่อว่าจะทำให้นิ้วงอและใช้งานไม่ได้

แต่ถ้าอยากแชร์ความสวยงามของรุ้งกับเพื่อน ลองใช้วิธีอื่นแทนการชี้นิ้ว เช่น พยักหน้าไปทางรุ้ง หรือใช้คางผายไปก็ได้ แบบนี้ได้ชมรุ้งสวยๆ แถมยังไม่เสียมารยาทกับเทพเจ้าด้วย

4. ห้ามนอนหันเท้าชี้ประตู! ไม่งั้นวิญญาณจะลากออกไป

นี่อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ในความเชื่อของคนเอเชียหลายประเทศ การนอนหันเท้าชี้ประตูถือเป็นลางร้ายอย่างหนัก

ตามความเชื่อ ท่านอนแบบนี้เหมือนกับท่าศพที่นอนเท้าชี้ประตูเวลาจะเอาออกจากบ้าน ถ้านอนแบบนี้บ่อยๆ อาจทำให้วิญญาณเข้าใจผิดคิดว่าเราพร้อมจะตายแล้ว แล้วมาลากเราไปซะก่อน… น่ากลัวชะมัด!

แถมยังเชื่อกันอีกว่า การนอนหันเท้าชี้ประตูจะทำให้โชคลาภหนีหาย เพราะเท้าเป็นส่วนที่ต่ำที่สุดของร่างกาย การหันเท้าไปทางประตูเท่ากับเราไล่สิ่งดีๆ ออกไปจากชีวิต

วิธีแก้ง่ายๆ ก็แค่จัดห้องนอนใหม่ ให้หัวเตียงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประตู หรือถ้าจำเป็นต้องนอนหันเท้าไปทางประตู ลองหาอะไรมาวางขวางระหว่างเท้ากับประตู เช่น ตู้ หรือฉากกั้น ก็ช่วยได้

5. อย่าเพิ่งตัดเล็บตอนกลางคืน! เดี๋ยวพ่อแม่อายุสั้น

ใครที่ชอบจัดการเรื่องเล็บตอนกลางคืน ระวังไว้นะ! ในหลายวัฒนธรรมเอเชีย โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น มีความเชื่อว่าการตัดเล็บตอนกลางคืนจะทำให้พ่อแม่อายุสั้น

ที่มาของความเชื่อนี้มีหลายเวอร์ชัน บางคนว่าเพราะสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้า การตัดเล็บตอนกลางคืนอาจทำให้บาดเจ็บได้ บางคนก็ว่าเพราะเสียงตัดเล็บในความเงียบยามค่ำคืนจะรบกวนวิญญาณบรรพบุรุษ

แต่ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ ลองเปลี่ยนมาตัดเล็บตอนกลางวันดูก็ไม่เสียหาย นอกจากจะปลอดภัยกว่าแล้ว ยังมองเห็นชัดกว่าด้วย ไม่มีโอกาสพลาดตัดโดนเนื้อ!

6. ระวังนะ! ห้ามวางกระเป๋าสตางค์ไว้บนพื้น

ถ้าอยากรวย อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด! การวางกระเป๋าสตางค์ไว้บนพื้นเป็นการดูถูกเงินทอง ตามความเชื่อของหลายวัฒนธรรม

ในฮวงจุ้ย กระเป๋าสตางค์ถือเป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง การวางไว้บนพื้นเท่ากับเราไม่ให้เกียรติเงินทอง ทำให้โชคลาภหนีหาย หรือแย่กว่านั้นคือทำให้เงินไหลออกจากชีวิตเราอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติ การวางกระเป๋าสตางค์บนพื้นก็เสี่ยงต่อการสูญหายหรือถูกขโมยได้ง่ายด้วย

แทนที่จะวางบนพื้น ลองหาที่วางที่สูงกว่านั้น เช่น บนโต๊ะ หรือในกระเป๋าที่สะพายไว้กับตัว นอกจากจะปลอดภัยกว่าแล้ว ยังเป็นการให้เกียรติเงินทอง ทำให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ

เลื่อนไปด้านบน